PRUKSA จ่อโกยรายได้ไตรมาส 4/65 ส่งมอบ 6 คอนโดใหม่แกะกล่อง มูลค่าเฉียด 15,000 ลบ.
นายปิยะ ประยงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ตลาดที่อยู่อาศัยแนวสูงยังคงมีความต้องการเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วงครึ่งปีหลัง โดยเฉพาะโครงการที่ตั้งอยู่ในทำเลใจกลางเมืองในแต่ละย่านของกรุงเทพฯ โดยช่วงครึ่งปีหลังปีนี้ บริษัทมีความพร้อมในการโอนคอนโดมิเนียมซึ่งสร้างเสร็จพร้อมเข้าอยู่รวม 6 โครงการ แต่ละโครงการตั้งอยู่ในทำเลศักยภาพย่านใจกลางเมือง การเดินทางสะดวกและเชื่อมโยงชีวิตเข้ากับไลฟ์สไตล์เมืองทุกรูปแบบตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้ทั้งสองกลุ่มคือ กลุ่มที่ต้องการที่อยู่อาศัยเป็นของตนเองและกลุ่มที่ต้องการมีอสังหาริมทรัพย์เพื่อการลงทุน โดยช่วงไตรมาส 3 ได้เริ่มทยอยรับรู้รายได้จากโครงการ เดอะรีเซิร์ฟ 61 ไฮด์อะเวย์, แชปเตอร์ เจริญนคร-ริเวอร์ไซด์ และโครงการแรกของไตรมาส 4 นี้ที่จะเริ่มโอน “แชปเตอร์ จุฬา-สามย่าน” เป็นที่แรก จากนั้นจะทยอยโอน เดอะไพรเวซี่ จตุจักร, พลัมคอนโด พระราม 2 และ พลัมคอนโด สุขุมวิท 62 ภายในสิ้นปี 2565 มูลค่ารวมทั้ง 6 โครงการอยู่ที่ประมาณ 15,000 ล้านบาท
ทางด้าน นายภัคริน ทัตติพงศ์ กรรมการผู้จัดการ กลุ่มธุรกิจคอนโดมิเนียม บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) ให้ข้อมูลเพิ่มเติมสำหรับโครงการแชปเตอร์ จุฬา-สามย่าน โดยระบุว่า โครงการนี้เป็นการตอกย้ำความสำเร็จของแบรนด์ “แชปเตอร์” ที่เป็นไลฟ์สไตล์คอนโดมิเนียม ระดับไฮเอนด์ของพฤกษา ที่มีคาแรกเตอร์ที่แตกต่างอย่างชัดเจนตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ที่ชื่นชอบการใช้ชีวิตเมืองที่มีความทันสมัยและสนุกสนานไปกับทุกกิจกรรมในย่านที่ตนเองอยู่อาศัย โดยทำเลสามย่าน ถือเป็นหนึ่งในทำเลยอดนิยม เนื่องจากเป็นย่านที่มีการลงทุนเมกะโปรเจ็กใหญ่มากมาย ทั้งอาคารสำนักงาน ช้อปปิ้งมอลล์ต่างๆ ตลอดจนส่วนต่อขยายรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน (หัวลำโพง – หลักสอง) ที่เปิดให้บริการแล้ว โครงการพรั่งพร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกด้วยแนวคิดการพัฒนาโครงการเพื่อสร้างประสบการณ์การใช้ชีวิตของคนรุ่นใหม่ “Curated Living Experience” ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์เมืองและวิถีนิวนอมัลที่ทำให้รูปแบบการใช้ชีวิตเปลี่ยนไปซึ่งทำให้บ้านกลายเป็นศูนย์กลางของการใช้พื้นที่เพื่อความสุขในทุกกิจกรรมของชีวิต
โครงการแชปเตอร์ จุฬา-สามย่าน เป็นคอนโดมิเนียมสูง 31 ชั้น จำนวน 179 ยูนิต มีระบบอาคารจอดรถอัตโนมัติ (Auto Parking) 100 % จัดเต็มพื้นที่ส่วนกลางถึง 4 ชั้น โดยมี The Co-working Edge และพื้นที่สำหรับการพักผ่อนหย่อนใจแบบเป็นส่วนตัวบนชั้น 23-25 ประกอบด้วย The Garden Edge, The Fit Edge, The Urban Forest, The Private Deck และThe Blue Edge ที่ให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง โดยแนวคิดเบื้องหลังการออกแบบโครงการใช้ความโดดเด่นจากทำเลที่ตั้งซึ่งอยู่ระหว่างเมืองใหม่ย่านสยามสแควร์และย่านเมืองเก่าทำเลตลาดน้อย เจริญกรุง มาเป็นแรงบันดาลใจในการออกแบบสไตล์ Modern Eccentric ที่หมายถึงความไม่ธรรมดาที่ผสมผสานกันได้อย่างลงตัวทั้งกลิ่นอายความคลาสสิกและโทนสีสดใสสไตล์โมเดิร์น และทางโครงการแชปเตอร์ จุฬา-สามย่าน จะจัดงาน OPEN HOUSE ในวันที่ 29-30 ตุลาคมนี้
#bidennews #หมาป่าแห่งวอลสตรีท