AURA ดีเดย์เข้าเทรดในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยวันแรก 29 พ.ย. 2565 นี้
บมจ.ออโรร่า ดีไซน์ หรือ AURA ผู้นำธุรกิจค้าปลีกทองรูปพรรณ เครื่องประดับเพชรและอัญมณี และธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องอื่นที่มีบริการแบบครบวงจร (One Stop Service) เตรียมนำหุ้นเข้าเทรดในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยวันแรก 29 พ.ย. 2565 นับเป็นหุ้นตัวแรก ในอุตสาหกรรมธุรกิจค้าปลีกทองรูปพรรณ และเครื่องประดับหรือของขวัญที่ทำมาจากทองคำ ที่เข้าเทรดในกระดาน SET กระแสการตอบรับจากนักลงทุนดีเยี่ยม หลังยอดจองซื้อหุ้น IPO ล้นหลาม เดินหน้าลงทุนเปิดสาขาใหม่ครอบคลุมทั่วประเทศและขยายธุรกิจรับขายฝาก สร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน ก้าวสู่ผู้นำร้านทองของประเทศไทย ส่งมอบของขวัญแห่งความสุขที่มีคุณค่าครบวงจร
นายอนิวรรต ศรีรุ่งธรรม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ออโรร่า ดีไซน์ จำกัด (มหาชน)) “บริษัทฯ”) หรือ AURA เปิดเผยว่า บริษัทฯ พร้อมนำหุ้นเข้าซื้อขายวันแรกในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ในวันที่ 29 พฤศจิกายน 2565 โดยใช้ชื่อย่อ ‘AURA’ ในการซื้อขายหลักทรัพย์ หลังประสบความสำเร็จในการเสนอขายหุ้น IPO ในช่วงที่ผ่านมา จำนวนไม่เกิน 334 ล้านหุ้น ราคาเสนอขาย 10.90 บาทต่อหุ้น ซึ่งได้รับความสนใจจากนักลงทุนเป็นอย่างมาก สะท้อนความเชื่อมั่นในพื้นฐานการดำเนินธุรกิจค้าปลีกทองรูปพรรณ เครื่องประดับเพชรและอัญมณี และธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องอื่นที่มีบริการแบบครบวงจร (One Stop Service) ที่มีความแข็งแกร่งและมีศักยภาพการเติบโตสูง อีกทั้งยังเป็นร้านค้าปลีกทองรูปพรรณรายแรกที่เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ช่วยสนับสนุนให้ AURA เป็นหนึ่งในหุ้นที่ได้รับความสนใจจากนักลงทุนภายหลังจากเข้าเทรด
ทั้งนี้ ภายหลังจากเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ บริษัทฯ มีแผนในการลงทุนเปิดสาขาและขยายธุรกิจเพื่อดำเนินการตามวิสัยทัศน์ของบริษัทฯ สู่การเป็น ‘ผู้นำในการส่งมอบของขวัญแห่งความสุขที่มีคุณค่า’ นำเสนอของขวัญที่มีค่ามีคุณภาพและสร้างความหลากหลายด้านผลิตภัณฑ์ภายใต้แบรนด์ AURORA, เซ่งเฮง, ทองมาเงินไป, ของขวัญ by AURORA และ AURORA Diamond โดยมีเป้าหมายในการก้าวสู่การเป็นผู้นำร้านทองของประเทศไทย ส่งมอบของขวัญแห่งความสุขที่มีคุณค่าครบวงจร ภายใต้แผนการลงทุน แบ่งเป็น
1) การลงทุนขยายไปยังธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับทองคำ ได้แก่ ธุรกิจขายฝากทองรูปพรรณ เครื่องประดับที่มีทองคำและเพชรเป็นส่วนประกอบ โดยมุ่งขยายธุรกิจรับขายฝากภายใต้แบรนด์ ‘ทองมาเงินไป’ ในทำเลที่อยู่ใกล้แหล่งชุมชนและโรงงาน โดยวางเป้าหมายที่จะขยายธุรกิจขายฝาก เป็น 3,846 ล้านบาท ในปี 2567
2) การเพิ่มจำนวนสาขาร้าน (Offline) ในทำเลที่มีศักยภาพทั่วประเทศ รองรับพฤติกรรมของลูกค้ายังคงเลือกซื้อทองรูปพรรณและเครื่องประดับที่มีทองคำเป็นส่วนประกอบผ่านทางหน้าร้าน โดย ณ วันที่ 30 กันยายน 2565 มีจำนวนสาขารวม 266 แห่ง และตั้งเป้าการเปิดสาขาไว้ภายในปี 2567 จะมีสาขาครบ 409 สาขา ครอบคลุมหัวเมืองต่างๆ และแหล่งชุมชนทั่งประเทศ เพื่อเพิ่มการเข้าถึงกลุ่มลูกค้าในพื้นที่มีศักยภาพทั่วประเทศ
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร AURA กล่าวเพิ่มเติมว่า บริษัทฯ มีแนวทางขยายธุรกิจเพื่อสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน ก้าวสู่ผู้นำร้านทองของประเทศไทย ภายใต้กลยุทธ์ ได้แก่ 1) มุ่งสร้างความหลากหลาย ด้วยการสร้างสรรค์นวัตกรรมผลิตภัณฑ์และแบรนด์ใหม่ เพื่อส่งมอบของขวัญล้ำค่าส่งมอบความสุขในโอกาสพิเศษต่างๆ ตอบสนองความต้องการกลุ่มลูกค้าทุกเพศทุกวัย 2) ขยายธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับทองคำ ขายฝากทองรูปพรรณ เครื่องประดับที่มีทองคำและเพชร ภายใต้แบรนด์ ‘ทองมาเงินไป’ โดยให้บริการรับขายฝากสินค้าด้วยวงเงินและอัตราดอกเบี้ยที่แข่งขันได้ 3) สร้างความแข็งแกร่งของช่องทางจำหน่าย ด้วยกลยุทธ์ O2O (Online to Offline) มุ่งเน้นขยายร้านสาขา (Offline) บนทำเลที่มีศักยภาพทั่วประเทศและสร้างประสบการณ์ช้อปปิ้งไร้รอยต่อ ขยายช่องทางขายผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ (Online) ผ่านทางเว็บไซต์ โซเชียลมีเดียของบริษัทฯ และมาร์เก็ตเพลส 4) สร้างความสัมพันธ์อันดีกับคู่ค้าและซัพพลายเออร์ ที่มีมากกว่า 180 ราย รวมทั้งสถาบันอัญมณีศาสตร์ชั้นนำของโลก ที่มีใบรับรอง De Beers Code of Origin โดย De Beers Institute of Diamond ประเทศอังกฤษ เป็นต้น เพื่อตอกย้ำความน่าเชื่อถือในแบรนด์ 5) นำเทคโนโลยีสร้างสรรค์สินค้าและบริการ ด้วยการพัฒนาแอปพลิเคชันใหม่ เพื่อส่งเสริมการซื้อสินค้า และบริการหลังการขาย เพื่อสร้างความพึงพอใจสูงสุดให้กับลูกค้าและสร้างความจงรักภักดีและความเชื่อมั่นที่ลูกค้ามีต่อแบรนด์ (Customer Loyalty) 6.) ดำเนินกลยุทธ์สร้างแบรนด์ที่แตกต่างและมีความแข็งแกร่งด้วยการเป็นแบรนด์ของขวัญล้ำค่า เพื่อส่งมอบความสุขในโอกาสพิเศษต่างๆ มากกว่าเป็นร้านขายทองคำ
นายพงศ์ศักดิ์ พฤกษ์ไพศาล กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์ กสิกรไทย จำกัด (มหาชน) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินและผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย กล่าวว่า AURA ถือเป็นหุ้นในอุตสาหกรรมธุรกิจค้าปลีกทองรูปพรรณ และเครื่องประดับหรือของขวัญที่ทำมาจากทองคำ ตัวแรกที่เตรียมเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และเป็นกลุ่มอุตสาหกรรมที่มีอัตราการเติบโตต่อเนื่อง โดยในช่วงการจองซื้อหุ้น IPO ที่ผ่านมา ได้รับความสนใจจากนักลงทุนรายย่อยและนักลงทุนสถาบันเป็นอย่างมาก สะท้อนความเชื่อมั่นต่อพื้นฐานทางธุรกิจที่แข็งแกร่งและศักยภาพการเติบโต ด้วยโมเดลธุรกิจของ AURA มีความโดดเด่นและแตกต่างในอุตสาหกรรมฯ จากการนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพ มีช่องทางจำหน่ายครอบคลุมผ่านสาขาหน้าร้านและแพลตฟอร์มออนไลน์เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายทุกเพศทุกวัย รวมถึงมีความสามารถในการทำกำไรของบริษัทฯ ในทุกช่วงการเปลี่ยนแปลงของราคาทอง ทำให้ AURA ก้าวสู่ผู้นำร้านทองของประเทศไทย ส่งมอบของขวัญแห่งความสุขที่มีคุณค่าครบวงจร และพร้อมสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนต่อไป
#bidennews #หมาป่าแห่งวอลสตรีท