PR9 โชว์งบปี 65 นิวไฮ กำไรสุทธิโต 567.6 ลบ. เพิ่มขึ้น 127.8% ตั้งเป้ารายได้ปี 66 โต 12% ลุยขยายตลาดต่างประเทศ
PR9 โชว์งบปี 65 นิวไฮ ทำกำไรสุทธิโต 567.6 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 127.8% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน รายได้ 4,150.5 ล้านบาท หลังคนไข้กลับมาใช้บริการปกติ Q4 เข้าช่วงไฮซีซั่น รับอานิสงส์เปิดประเทศยอดผู้ป่วยใน-นอกประเทศเพิ่ม ดีมานด์การรักษาโรคซับซ้อนพุ่ง ตั้งเป้ารายได้ปี 66 โต 12% แตะ 4,600 ล้านบาท ลุยขยายตลาดต่างประเทศ อาทิ กัมพูชา พม่า และลาว อัพฐานลูกค้าเพิ่ม พร้อมรีโนเวทอาคารเพิ่มพื้นที่รองรับผู้ป่วยทุกรูปแบบ
นพ.เสถียร ภู่ประเสริฐ รองประธานกรรมการและกรรมการผู้อำนวยการ บริษัท โรงพยาบาลพระรามเก้า จำกัด (มหาชน)(PR9) ผู้ดำเนินธุรกิจสถานพยาบาลเอกชนประเภทรับผู้ป่วยไว้ค้างคืน เปิดเผยถึงผลประกอบการปี 2565 บริษัทมีกำไรสุทธิ 567.6 ล้านบาท เติบโต 127.8% เทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2564 ที่มีกำไรสุทธิ 249.2 ล้านบาท และมีรายได้รวม อยู่ที่ 4,150.5 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1,124.5 ล้านบาท เติบโต 37.2% เทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2564 ที่มีรายได้รวม 3,026.0 ล้านบาท
ในขณะที่ผลประกอบการไตรมาส 4/2565 บริษัทมีรายได้รวม 1,116.4 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 172.5ล้านบาท หรือเติบโต 18.3% จากช่วงเดียวกันปีก่อน ที่มีรายได้รวมอยู่ที่ 943.9 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 138.8 ล้านบาท หรือเติบโต 19.7% จากช่วงเดียวกันปีก่อนที่ทำไว้ 116.0 ล้านบาท
ทั้งนี้ผลประกอบการทั้งปี 2565 ที่เติบโตอย่างโดดเด่นทำนิวไฮทั้งรายได้และกำไร มีปัจจัยสนับสนุนมาจากกลุ่มคนไข้ในประเทศกลับมาใช้บริการปกติและเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะไตรมาส 4/2565 เป็นช่วงไฮซีซั่นของธุรกิจโรงพยาบาล เพราะเป็นช่วงที่มีวันหยุดยาว และถึงรอบการเช็คสุขภาพประจำปี รวมถึงการเสริมความงาม การทำเลสิค ส่งผลให้เคสผ่าตัดขยายตัวเพิ่มขึ้น
ประกอบกับคนไข้ต่างชาติกลับมารักษามากขึ้น โดยเฉพาะชาวจีนและ CLMV จากการที่ไทยเปิดประเทศอย่างเป็นทางการ ส่งผลให้ต่างชาติเริ่มบินกลับเข้ามารับการรักษาโรคซับซ้อน อาทิ โรคไต, หัวใจ , มะเร็ง, เบาหวาน ไทรอยด์ เป็นต้น ด้วยความเชื่อมั่นด้านคุณภาพการรักษา จากบุคลากรทางการแพทย์ที่มีความชำนาญการและเครื่องมือแพทย์ที่ทันสมัยของ PR9 โดยสัดส่วนคนไข้ต่างชาติอยู่ที่ 13% และสัดส่วนคนไข้ในประเทศอยู่ที่ 87%
สำหรับแผนการดำเนินงานปี 2566 บริษัทยังเดินหน้ามุ่งเน้นสร้างการเติบโต ผ่านกลยุทธ์จากการมุ่งเน้นการขยายตลาดต่างประเทศ อาทิ กัมพูชา พม่า และลาว มากขึ้น พร้อมทั้งบริษัทอยู่ระหว่างทยอย รีโนเวทแผนกผู้ป่วยทั่วไปของอาคาร A ชั้น 2 เพื่อเพิ่มความทันสมัยและศักยภาพพื้นที่การให้บริการสำหรับรองรับผู้ป่วยนอก (OPD) และผู้ป่วยใน (IPD) ที่มีแนวโน้มขยายตัว
ขณะเดียวกันบริษัทวางแผนปรับพื้นที่ชั้น 1 อาคาร A เพื่อเปิดให้บริการผู้ป่วยชาวต่างชาติ “International Center” เพิ่มเติมด้วย ซึ่งเบื้องต้นคาดว่าหลังจากรีโนเวทเฟสแรกเริ่มเปิดให้บริการช่วงกลางปี 66 เป็นต้นไป
“บริษัทเชื่อมั่นว่าแผนการดำเนินงานปี 66 ที่วางไว้ จะส่งผลให้การเติบโตรายได้เป็นไปตามเป้าหมายที่ตั้งเป้าเติบโต 12% จากปี 65 หรืออยู่ที่ระดับ 4.6 พันล้านบาท และแม้ว่ารายได้ Covid ไม่มีมากนัก แต่ยังมีรายได้ส่วนอื่น ๆ เข้ามาเสริม เช่น รายได้จากผู้ป่วย Long Covid, รวมถึงรายได้จากผู้ป่วยต่างชาติมีทิศทางปรับตัวที่ดี โดยเฉพาะผู้ป่วยจาก CLMV และจากการขยายฐานลูกค้าต่างชาติที่อาศัยอยู่ในไทย (Expat) เพิ่มขึ้น” นพ.เสถียร กล่าว
#bidennews #หมาป่าแห่งวอลสตรีท