WAVE ลั่นปีนี้ผลประกอบการเทิร์นอะราวด์ ปลดล็อก “C” หลังเพิ่มทุนสำเร็จ ปักธงลุยคาร์บอนเครดิต-อุตฯสุขภาพ-สถาบันสอนภาษา
เวฟ เอ็นเตอร์เทนเมนท์ เปิดแผนยุทธศาสตร์การดำเนินธุรกิจปี 2566 ลั่นเป็นปีแห่งการพลิกฟื้นธุรกิจ ตั้งเป้าผลประกอบการเทิร์นอะราวด์ เดินหน้ารุกธุรกิจใหม่ “คาร์บอนเครดิตครบวงจร” ผ่าน Wave BCG ธุรกิจอุตฯสุขภาพ Wave Wellbeing พร้อมตั้งเป้าธุรกิจสถาบันสอนภาษา Wallstreet English เติบโตก้าวกระโดด จ่อออกหุ้นกู้พันล้านบาทนำเงินพัฒนาธุรกิจใหม่และขยายธุรกิจเดิม
นายเจมส์ แอนดริว มอร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทเวฟ เอ็นเตอร์เทนเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ WAVE เปิดเผยว่า แผนการดำเนินธุรกิจของบริษัทในปี 2566 จะเป็นปีแห่งการพลิกฟื้นธุรกิจ หรือ “เทิร์นอะราวด์” ด้วยการพัฒนาธุรกิจใหม่ในกลุ่ม ทั้ง บริษัท Wave BCG จำกัด และบริษัท Wave Wellbeing จำกัด รวมถึงการปรับกลยุทธ์เพื่อขยายธุรกิจเดิมคือธุรกิจสถาบันการศึกษาหรือ Wallstreet English
นายเจมส์ กล่าวต่อว่า ปีนี้เรามีความพร้อมขยายธุรกิจทุกกลุ่ม ปัจจัยพื้นฐานทางด้านการเงินก็มีความแข็งแกร่งมากขึ้น โดยล่าสุดตลาดหลักทรัพย์ได้ปลดเครื่องหมาย C หุ้น WAVE หลังจากที่บริษัทมีการเพิ่มทุนสำเร็จ และได้นำเงินเพิ่มทุนไปชำระหนี้ ที่ครบกำหนดชำระแก่สถาบันการเงิน ตามวัตถุประสงค์ของการเพิ่มทุนเรียบร้อยแล้ว ส่งผลให้หนี้สินรวมของบริษัทลดลง 404.67 ล้านบาท หรือลดลง 54% และหนี้สินรวมของบริษัทเหลือเพียง 324.29 ล้านบาท
“บริษัทตั้งเป้าหมายว่าปีนี้ ผลประกอบการจะเทิร์นอะราวด์ มีกำไรสุทธิเกิดขึ้น จากงวดปี 2565 มีผลขาดทุนสุทธิ จำนวน 65.81 ล้านบาท หลังจากที่กลุ่มบริษัทได้มีการปรับโครงสร้างธุรกิจในกลุ่มใหม่ มีฐานะการเงินที่แข็งแกร่ง ทำให้มีความพร้อมในการขยายธุรกิจอย่างเต็มที่” นายเจมส์ กล่าว
สำหรับธุรกิจใหม่ของบริษัทคือ Wave BCG จะเป็น S-curve ใหม่ของบริษัท โดยธุรกิจ Carbon Credits ถือเป็นเทรนด์ใหม่ในโลก โดยเฉพาะ หลังจากการประชุมสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (COP26 ) ที่จัดขึ้นใน กลาสโกว์ ประเทศสกอตแลนด์ (ข้อตกลงประเทศไทยเรื่อง Carbon Neutral 2050, Net Zero Emissions 2065, Reduce by 40% by 2030) ประกอบด้วย Carbon Tax ,CBAM Vendor List , Funds (ESG), Green Financing และStakeholder Pressure ได้เพิ่มความความกดดันให้กับผู้ประกอบการไทย ซึ่งสอดคล้องกับวิสัยทัศน์ของ Wave BCG คือการสนับสนุนผู้ประกอบการไทยและเพิ่มความสามารถในการแข่งขันให้กับองค์กรไทยในระดับโลก
บริษัท Wave BCG ทำธุรกิจ Carbon Credit ครบวงจร ให้บริการด้านการเป็นที่ปรึกษาสำหรับผู้ซื้อและผู้ขาย Carbon Credits การหาและบริหาร Climate Project สนับสนุนการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกของบริษัท สนับสนุนการขึ้นทะเบียน Carbon Credits การตรวจสอบการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกของบริษัท การจัดหา Carbon Credit ให้องค์กรในไทยและ SEA รวมถึงการพัฒนานวัตกรรมและเทคโนโลยีด้าน Climate Tech/ Sustainability Tech
ส่วนธุรกิจใหม่อีกธุรกิจคือ Wave Wellbeing ดำเนินธุรกิจในอุตสาหกรรมสุขภาพ ซึ่งปัจจุบันดำเนินธุรกิจกัญชาเพื่อประโยชน์ทางการแพทย์และเป็นเจ้าของ และดำเนินกิจการโรงเรือนของตนเองเพื่อคุมคุณภาพ (Quality) ซึ่งแผนการดำเนินธุรกิจของบริษัท Wave Wellbeing มีแผนจะขยายตัวเข้าสู่การพัฒนาศูนย์ดูแลสุขภาพ (Wellness Center) ที่มีผลิตภัณฑ์ด้านสุขภาพ ร่วมกับพาร์ทเนอร์ที่เป็นผู้นำในอุตสาหกรรมสุขภาพ
ขณะที่ธุรกิจ Wallstreet English เป็นสถาบันสอนภาษาอังกฤษชั้นนำของโลก มีการดำเนินการทั่วโลกมากกว่า 50 ปี และในประเทศไทยมากกว่า 20 ปีตั้งแต่ปี 2546 (2003) โดยมีนักเรียนกว่า 100,000 คนที่จบหลักสูตร มียอดขายสูงที่สุดใน เอเชีย โดยคู่แข่งอันดับ 2 และ 3 ต่างกันถึง 20% และ 30% ตามลำดับ ในประเทศไทย Wallstreet English มี การครองตลาดในส่วนของกลุ่มลูกค้าพรีเมียมได้ถึง 35%
ปัจจุบันธุรกิจสอนภาษาอังกฤษ มีสาขาทั้งหมด 13 สาขาทั่วประเทศไทย โดยมีแผนการขยายสาขาในประเทศไทยและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (SEA) ด้วย franchising model ซึ่งในปีนี้บริษัทได้ตั้งเป้าหมายผลการดำเนินงาน Wallstreet English เติบโตก้าวกระโดด หลังผลการดำเนินงานในปี 2565 ทำนิวไฮ นับจากเกิดสถานการณ์โควิด
ขณะเดียวกันเมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นอนุมัติการออกและเสนอขายหุ้นกู้ในวงเงินรวมไม่เกิน 1,000 ล้านบาท เพื่อสนับสนุนการขยายตัวของธุรกิจในกลุ่มให้สามารถพลิกฟื้น (Turnaround) ด้วยการพัฒนาธุรกิจใหม่ และการปรับกลยุทธ์เพื่อขยายธุรกิจเดิม
#bidennews #หมาป่าแห่งวอลสตรีท