GPI เตรียมขยายธุรกิจเอ็กซิบิชั่นและอีเวนต์ปี 68 วางแผนรุกจัดงานต่อเนื่องตลอดทั้งปีเพิ่มศักยภาพเติบโต
“บมจ.กรังด์ปรีซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล” หรือ GPI เตรียมรุกขยายธุรกิจเอ็กซิบิชั่นและอีเวนต์ด้านกีฬาและเอ็นเตอร์เทนเมนต์ในปี 68 วางแผนจัดงานต่อเนื่อง 7-8 งานเพื่อเพิ่มศักยภาพการเติบโต เล็งขยายงานมอเตอร์โชว์สู่ประเทศกัมพูชา หลังเศรษฐกิจเติบโตดี
นายพีระพงศ์ เอี่ยมลำเนา ประธานเจ้าหน้าที่สายพัฒนาธุรกิจและสายการเงิน บริษัท กรังด์ปรีซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ GPI เปิดเผยว่า หลังจากได้ต่อยอดความเชี่ยวชาญการจัดงานมอเตอร์โชว์ สู่การจัดงานเอ็กซิบิชั่นและอีเวนต์ด้านกีฬาและเอ็นเตอร์เทนเมนต์ในปีนี้ ปัจจุบันบริษัทฯ อยู่ระหว่างวางแผนขยายธุรกิจการจัดงานเอ็กซิบิชั่นและอีเวนต์เกี่ยวกับกีฬาและความบันเทิงในปี 2568 เพื่อเพิ่มศักยภาพการเติบโต โดยแผนการดำเนินงานเบื้องต้น คาดว่าจะจัดงานดังกล่าวรวม 7-8 งาน หลังจากที่ต้องเลื่อนการจัดงานบางส่วนในปีนี้ เนื่องจากสถานการณ์เศรษฐกิจที่ผันผวน และประชาชนในบางจังหวัดได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์อุทกภัย
สำหรับแผนการจัดงานเอ็กซิบิชั่นใหม่ๆ ในปีหน้า บริษัทฯ กำลังให้ความสนใจการจัดงานแสดง Art toy และงานแสดงรถโมเดลจำลอง เพื่อตอบสนองกลุ่มลูกค้าจำนวนมาก ที่ชื่นชอบการสะสมของเล่นประเภท Art toy และรถโมเดลจำลองต่างๆ จากผู้ผลิตและผู้ค้าที่ต้องการร่วมออกงานเพื่อขยายตลาดหรือใช้โอกาสนี้ในการเปิดตัวสินค้าแบบใหม่ๆ
ขณะเดียวกันได้เตรียมความพร้อมการจัดงานสปอร์ตอีเวนต์ในจังหวัดต่างๆ ที่เป็นเมืองท่องเที่ยวอีก 2-3 งานตลอดทั้งปี เช่น การจัดแข่งขันวิ่งมาราธอน, การจัดแข่งขันไตรกีฬา เพื่อส่งเสริมการออกกำลังกายและกระตุ้นการท่องเที่ยวภายในจังหวัด รวมถึงการจัดอีเวนต์ด้านเอ็นเตอร์เทนเมนต์ เช่น งานแฟนมีตติ้งดาราเอเชีย, คอนเสิร์ตของศิล ปินจากต่างประเทศ คาดว่าจะจัดงานดังกล่าว 3 ครั้งในปีหน้า
นอกจากนี้ บริษัทฯ ให้ความสนใจขยายการจัดงานมอเตอร์โชว์ไปยังประเทศกัมพูชา โดยอยู่ระหว่างศึกษาความเป็นไปได้ในการจัดงาน เนื่องจากเป็นประเทศที่มีศักยภาพและการเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง โดยมีการคาดการณ์ว่าภาพรวมเศรษฐกิจกัมพูชาในปี 2567 จะมีอัตราเติบโต 5.6% และเพิ่มขี้นเป็น 5.9% ในปี 2568
“เราวางแผนรุกจัดงานเอ็กซิบิชั่นและอีเวนต์เพิ่มขึ้นในปีหน้า เพื่อขยายพอร์ตรายได้และเพิ่มศักยภาพการเติบโต นอกจากการการจัดงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ซึ่งเป็นธุรกิจที่สร้างรายได้หลักและผลกำไรแก่บริษัทฯ” นายพีระพงศ์ กล่าว
#bidennews #หมาป่าแห่งวอลสตรีท
