THE VALUE INVESTOR NEWS แหล่งรวมหุ้นสายพื้นฐานเมืองไทย ไปกับ Uncle Graham 29 September 2025

BCP ปักธง EBITDA ปี 2028 โตสองเท่า เดินหน้าซื้อหุ้นคืนระยะ 3 ปี สร้างมูลค่าเพิ่มผู้ถือหุ้น
BCP ตั้งเป้าหมายเพิ่มผลประกอบการ EBITDA เติบโตเป็นสองเท่าภายในปี 2028 พร้อมปรับโครงสร้างธุรกิจใหม่ แบ่งออกเป็น 5 กลุ่มหลัก ได้แก่ Refinery & Marketing, Biofuels, Trading, Upstream และ Power & Infrastructure เพื่อรองรับการขยายตัวระยะยาว นอกจากนี้ บริษัทฯ ได้ประกาศทำโครงการซื้อหุ้นคืน (Share Buyback Program) ระยะเวลา 3 ปี เพื่อสร้างผลตอบแทนแก่ผู้ถือหุ้น โดยผู้บริหารมองว่าราคาหุ้นปัจจุบันยังอยู่ในระดับที่ต่ำกว่ามูลค่าพื้นฐานและต้องการสร้างความมั่นใจต่อศักยภาพผลงานในอนาคตที่จะออกมาแข็งแกร่ง บล.ทรีนีตี้ ระบุว่าเรามีมุมมองเป็นบวกต่อการเติบโตในอนาคตของบริษัท แต่ก็เป็นเป้าหมายที่ท้าทายเช่นกันแต่ในระยะสั้น เราเห็นปัจจัยเชิงบวกจากธุรกิจไฟฟ้าในสหรัฐฯ ที่จะมีการปรับค่า Capacity Charge จาก 29$/MW – day ไปเป็น 270 $/MW – day จาก supply ไฟฟ้าที่ค่อนข้างขาดแคลนจากความต้องการใช้ในกลุ่ม Data Center, AI เพิ่มขึ้น และค่าการกลั่น 2H25 อยู่ในระดับ 7$/bbI ดีกว่าใน 1H25 ที่ 4$/bbl คงคำแนะนำ ซื้อเก็งกำไร และคงราคาเป้าหมาย 37.25 บาท
———–
CPAXT บุกฟิลิปปินส์ เปิดเกมรุกสร้างการเติบโตในตลาดศักยภาพสูง
CPAXT ร่วมมือกับ Ayala Corporation เพื่อจัดตั้งบริษัท M&Co Corporation ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุนที่จะดำเนินธุรกิจค้าส่งและค้าปลีก “Makro” ในสาธารณรัฐฟิลิปปินส์ โดยมีทุนจดทะเบียน 3.44 พันล้านเปโซฟิลิปปินส์ (ประมาณ 1.9 พันลบ.) โดย CPAXT ถือหุ้น 50.1% ผ่านบริษัทย่อย MROH บริษัทฯ JV จะก่อสร้างสาขาแรกและสำนักงานใหญ่ ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จและเริ่มดำเนินงานได้ภายในปลายปี 2569 สาขาจะดำเนินงานในรูปแบบ Eco Plus เช่นเดียวกับในประเทศไทย โดยนำเสนอทั้งสินค้าอาหารและสินค้าอุปโภคบริโภคที่ไม่ใช่อาหาร มุมมอง KS แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 25.60 บาท
———–
AEONTS ได้อานิสงส์โครงการร่วมจ่าย “Quick Win”
AEONTS มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจล่าสุดจากรัฐบาลชุดใหม่จะเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยบรรเทาผลกระทบจากภาษีศุลกากรของสหรัฐฯ และแนวโน้มเศรษฐกิจกัมพูชาที่อ่อนแอ เราคาดว่า AEONTS จะได้รับประโยชน์จากกำลังซื้อที่เพิ่มขึ้นและความสามารถในการชำระหนี้จากโครงการร่วมจ่าย co-payment) ของรัฐบาล และโครงการ “Quick Win” อื่นๆ ซึ่งน่าจะช่วยหักล้างผลกระทบเชิงลบบางส่วนจากการคาดการณ์ที่ว่าผลิตภัณฑ์การผลิตที่อ่อนแอลงจากภาษีศุลกากรของสหรัฐฯ ในช่วงครึ่งหลังของปี 2568 บล. KS คงคำแนะนำ “ซื้อ” และปรับเพิ่มราคาเป้าหมายจากเดิม 114 บาท เป็น 135 บาท
———–