NCL ท็อปฟอร์ม! โชว์กำไรไตรมาส 1/65 ที่ 30.97 ลบ. มั่นใจผลงานทั้งปี 65 ทำ New High
NCL เผยไตรมาส 1/65 โชว์กำไรสุทธิท็อปฟอร์ม 30.97 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 54.72% จากงวดเดียวกันปีก่อนทำได้ 20.02 ล้านบาท หลัง “ชีส ดิจิตอล เน็ตเวิร์ค” ช่วยหนุน-สถานการณ์โควิด-19 เริ่มคลี่คลาย พร้อมมั่นใจผลงานทั้งปี 65 ทำ New High โตไม่ต่ำกว่า 50-60% จากปี 64 ทำได้ 1,923.89 ล้านบาท
นายพงษ์เทพ วิชัยกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็นซีแอล อินเตอร์เนชั่นแนล โลจิสติกส์ จำกัด (มหาชน) หรือ NCL ผู้ให้บริการจัดการระบบโลจิสติกส์ ครบวงจร (Logistics Solution Provider) เปิดเผยว่าผลการดำเนินงานของบริษัทไตรมาส 1/2565 สิ้นสุดวันที่ 31 มี.ค.2565 มีรายได้อยู่ที่ 589.40 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 250.54 ล้านบาท หรือ 73.94% จากงวดเดียวกันปีก่อนทำได้ 338.86 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 30.97ล้านบาท จากปีก่อนที่ทำได้ 20.02 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10.95 ล้านบาท หรือ 54.72% จากงวดเดียวกันปีก่อน เนื่องจากบริษัทฯ และบริษัทย่อย มีรายได้จากการให้บริการขนส่งเพิ่มขึ้น
ประกอบกับบริษัทฯ เริ่มรับรู้กำไรจากการลงทุนใน บริษัท ชีส ดิจิตอล เน็ตเวิร์ค จำกัด (CDN) ผู้ดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับ Digital Marketing Services ซึ่งถือเป็นผู้ให้บริการพัฒนาระบบเทคโนโลยีสารสนเทศครบวงจร ด้วยประสบการณ์ด้าน IT solution และ digital content มากว่า 10 ปี และมีผลการดำเนินงานที่เติบโตอย่างต่อเนื่องโดยมีรายได้สูงถึง 390 ล้านบาทต่อปี และมีอัตรากำไรขั้นต้นกว่า 43% ในปี 2562 โดยบริษัทฯ เล็งเห็นว่าเป็นกลุ่มธุรกิจที่มีศักยภาพในการเติบโตสูง ตลอดจนสามารถสร้างแหล่งที่มาของรายได้ให้แก่กลุ่มบริษัทฯ ได้อย่างมั่นคงและต่อเนื่องในระยะยาว ทำให้เชื่อมั่นว่าจะเข้ามาช่วยหนุนให้เครือธุรกิจของ NCL เติบโตอย่างมีศักยภาพมากยิ่งขึ้น
ส่วนแนวโน้มผลประกอบการในไตรมาสที่ 2/2565 บริษัทฯ คาดว่าจะมีทิศทางที่ดีขึ้น หลังธุรกิจการขนส่งระหว่างประเทศเติบโตโดดเด่น เพราะได้รับปัจจัยบวกจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่เริ่มคลี่คลายและมีการผ่อนคลายในหลายๆ มาตรการ ส่งผลให้เศรษฐกิจในหลายๆ ประเทศดีขึ้น ประกอบกับการบังคับใช้ความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (Regional Comprehensive Economic Partnership) ที่เริ่มเมื่อวันที่ 1 มกราคม 2565 ที่ผ่านมา ทำให้การนำเข้าส่งออกไปยังประเทศสมาชิกอาเซียน 14 ประเทศคล่องตัวมากขึ้น บริษัทฯ จึงคาดว่ารายได้ในปีนี้มีโอกาสทำ New High เติบโตไม่ต่ำกว่า 50-60% จากปี 2564 ที่ทำได้ 1,923.89 ล้านบาท
“ผลประกอบการในไตรมาส 1 ถือว่าออกมาตามที่บริษัทฯ คาดการณ์ไว้ ด้วยปัจจัยบวกหลายๆ อย่างทั้งสถานการณ์โควิด-19 ที่เริ่มดีขึ้น ค่าระวางเรือยังทรงตัวสูงเมื่อเทียบกับอดีต บวกกับสถานการณ์ขาดแคลนตู้คอนเทนเนอร์ที่ถึงแม้จะคลี่คลายลงไปแต่ก็ไม่กลับสู่จุดปรกติ ทำให้ แอล จี คอนเทนเนอร์ ไลน์ บริษัทย่อย มีลูกค้าทยอยเข้ามาใช้บริการมากขึ้นและ LG ก็มีแผนเพิ่มเส้นทางการขนส่งและเพิ่มตู้คอนเทนเนอร์ เพื่อรองรับความต้องการที่เพิ่มขึ้นด้วย” นายพงษ์เทพ กล่าวในที่สุด
อนึ่งบริษัทฯ ยังคงมุ่งมั่นที่จะพัฒนาความเชี่ยวชาญในการเป็นผู้ให้บริการด้านโลจิสติกส์แบบครบวงจร ได้มาตรฐานสากล โดยจะเป็นทางเลือกแรกและทางเลือกที่ดีที่สุดให้แก่ลูกค้าและคู่ค้าของบริษัท เพื่อเป้าหมายในการดำเนินธุรกิจ คือการเป็นมืออาชีพในการช่วยลดต้นทุนด้านโลจิสติกส์เพิ่มประสิทธิภาพและสร้างความพึงพอใจให้แก่ลูกค้าให้มากที่สุด
#bidennews #หมาป่าแห่งวอลสตรีท