สำนักข่าว ไบเดน นิวส์ “นึกถึงหุ้น นึกถึงเรา” ฉบับวันที่ 21 กรกฎาคม 2564

SNNP เหนือจองกว่า 29.35%
บมจ.ศรีนานาพร มาร์เก็ตติ้ง หรือ SNNP ผู้นำผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มและขนมขบเคี้ยวของประเทศไทย เปิดการซื้อขายหลักทรัพย์วันแรกในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ที่ราคา 11.90 บาทต่อหุ้น เพิ่มขึ้น 29.35% จากราคาจองซื้อ IPO ที่หุ้นละ 9.20 บาท สะท้อนความเชื่อมั่นในศักยภาพธุรกิจและแผนดำเนินงานเพื่อผลักดันรายได้ 8,000 ล้านบาท ภายในปี 2569
——————–
EKH โควิด-19 หนุนยอดผู้ใช้บริการพุ่งต่อเนื่อง มั่นใจโต 20 %
นายแพทย์อำนาจ เอื้ออารีมิตร เผยถึงแนวโน้มQ 2/64 ของบริษัท คาดว่ามีเติบโตโดดเด่น เนื่องจากได้รับอานิสงส์จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ระลอกใหม่ ส่งผลให้มีรายได้จากการตรวจหาเชื้อโควิด-19 รวมถึงมีผู้เข้ารับการรักษาเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ โดยคาดว่าจะส่งผลต่อภาพรวมธุรกิจในช่วงครึ่งปีหลังที่มีโอกาสขยายตัวอย่างโดดเด่นทั้งรายได้และกำไร และผลักดันให้รายได้ปี 64 เติบโตตามเป้าไม่ต่ำกว่า20%
——————–
EFORL ส่งสัญญาณ Q2/64 สดใส
EFORL เผย แนวโน้มผลการดำเนินงานQ2/64 คาดว่าจะเติบโตอย่างแข็งแกร่ง เนื่องจากมีการทยอยส่งมอบเครื่องมือทางแพทย์ ให้กับโรงพยาบาล โดยเฉพาะเครื่องมือที่เกี่ยวข้องกับการรักษาโควิด-19 มูลค่ากว่า 500 ลบ. ล่าสุดบริษัทยังได้เป็นผู้นำเข้า Oxygen High Flow มาจำหน่ายและอยู่ระหว่างการสั่งซื้อชุดตรวจโควิด Rapid Test เพื่อมาจำหน่ายให้กับโรงพยาบาลและร้านขายยา คาดว่าจะสามารถเริ่มจำหน่ายได้ภายในเดือนสิงหาคมนี้
——————–
TM จ่อโกยรายได้ 50 ล้านบาท
นางสุนทรี จรรโลงบุตร เผย ขณะนี้บริษัทฯ และพันธมิตรทางธุรกิจ อยู่ระหว่างการขอใบอนุญาติจำหน่ายชุดตรวจคัดกรองโควิด-19 ด้วยตนเองแบบเร่งด่วน เพื่อจำหน่ายให้แก่ประชาชนโดยทั่วไป หากได้รับการอนุมัติ บริษัทฯสามารถนำผลิตภัณฑ์ดังกล่าวจำหน่ายได้ทันที โดยบริษัทฯตั้งเป้ายอดขาย ในปี64 จำนวน 30 – 50 ล้านชุด คิดเป็นยอดขายประมาณ 50 ลบ. ซึ่งขณะนี้ได้มีการเจรจากับกลุ่มสมาชิกของสมาคมร้านขายยาที่มีสมาชิกอยู่กว่า 20,000 ราย เพื่อเพิ่มช่องทางการจำหน่าย
——————–
APURE ตั้งเป้า3ปี เติบโตขั้นต่ำ 20-30%
บทวิเคราะห์ บล.เอชียเวลท์ เผยว่า จากการพูดคุยกับทาง APURE พบว่าแนวโน้มผลประกอบการของ APURE ในปี 64 มีแนวโน้มเติบโต YoY ซึ่งหนุนจากการปรับเปลี่ยนเครื่องจักรในการผลิตในปี 63 ที่ผ่านมา และออเดอร์จากลูกค้ารายใหม่ รวมไปถึงแนวโน้มของค่าเงินบาทที่อ่อนค่า ทั้งนี้ในช่วง 3 ปีข้างหน้า (ปี 64-66) บริษัทตั้งเป้าหมายการเติบโตขั้นต่ำ (CAGR) 20-30% ต่อปี และบริษัทยังมีความน่าสนใจแง่เงินปันผล ซึ่งคาดว่าจะได้รับอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลในปี 64 ราว 6% โดยประเมินกําไรสุทธิในปี 64 เบื้องต้นไว้ที่ 400 ลบ.
——————–
#bidennews #หมาป่าแห่งวอลสตรีท