‘ASW’ และ ‘TITLE’ ขาขึ้นรับท่องเที่ยวไทยฟื้นตัว หนุนภูเก็ตคึกคัก เตรียมเปิดตัวคอนโดฯ 2 โครงการใหม่ มูลค่ากว่า 5,150 ลบ.
บมจ.แอสเซทไวส์ หรือ ASW ชี้ภายหลังรัฐบาลใหม่มีนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจด้วยภาคการท่องเที่ยว ฟรีวีซ่าชั่วคราวให้นักท่องเที่ยวจีน และคาซัคสถาน เชื่อตลาดท่องเที่ยวในช่วงปลายปีนี้คึกคักแน่นอน หนุนตลาดท่องเที่ยวภูเก็ตโดดเด่น พร้อมเตรียมเปิดตัวคอนโดมิเนียม 2 โครงการใหม่ ผ่านบริษัท TITLE มูลค่าโครงการรวมกว่า 5,150 ล้านบาท ได้แก่ THE TITLE LEGENDARY BANGTAO มูลค่าโครงการ 3,750 ล้านบาท และ THE TITLE LEGENDARY NAIYANG มูลค่าโครงการ 1,400 รับกำลังซื้อช่วงไฮซีซั่นที่จะถึงนี้
นายกรมเชษฐ์ วิพันธ์พงษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอสเซทไวส์ จำกัด (มหาชน) (ASW) บริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่เป็นผู้นำด้านไลฟ์สไตล์ภายใต้แนวคิด “ความสุขที่ออกแบบมาเพื่อคุณ” หรือ “We Build Happiness” เปิดเผยว่า ภายหลังจากที่นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี มีนโยบายใช้ภาคอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของไทยเป็นส่วนหนึ่งในขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศในช่วงครึ่งปีหลัง 2566 และได้ออกมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวในช่วงปลายปีนี้ ด้วยการออกแคมเปญ “วีซ่าฟรีชั่วคราว” ในการเดินทางเข้าประเทศไทย ให้กับนักท่องเที่ยวจากประเทศจีน และคาซัคสถาน โดยวีซ่าฟรีจะยกเว้น 5 เดือน เริ่มตั้งแต่วันที่ 25 ก.ย.-29 ก.พ.2567 คาดว่าจะส่งผลให้มีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทยมากขึ้นในช่วงไฮซีซั่นที่จะถึงนี้ โดยกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ระบุว่ามีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้าประเทศไทยในช่วง 8 เดือนแรกของปีนี้แล้วกว่า 18 ล้านคน ใกล้เคียงกับจำนวนนักท่องเที่ยวที่คาดการณ์ว่าจะเดินทางมาประเทศไทยทั้งปีที่ 25 ล้านคน
อย่างไรก็ตาม จังหวัดภูเก็ตถือเป็นเดสทิเนชั่นจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวทั่วโลก เนื่องจากมีหาดทรายที่สวยงามขึ้นชื่อ แหล่งที่กิน แหล่งท่องเที่ยว และสถานที่พักผ่อนอีกมากมาย จนทำให้นักท่องเที่ยวทั่วโลกต้องการเดินทางมาสัมผัส ซึ่งล่าสุดการบินไทยได้เตรียมเพิ่มเที่ยวบินไปกลับ กรุงเทพฯ-ภูเก็ต ให้มีความถี่ต่อสัปดาห์มากขึ้น จึงเชื่อว่าในช่วงไฮซีซั่นที่จะถึงนี้จังหวัดภูเก็ตจะเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีความโดดเด่นเป็นอย่างมาก และอาจเป็นจังหวัดที่สร้างรายได้สูงให้กับประเทศเป็นอันดับต้นๆ
ดังนั้น จึงเป็นจังหวะและโอกาสที่ดีของ ASW ที่ได้ขยายฐานตลาดอสังหาริมทรัพย์ไปในจังหวัดภูเก็ตที่มีศักยภาพด้านการท่องเที่ยวสูง ผ่านการเข้าลงทุนในบริษัท ร่มโพธิ์ พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ TITLE ที่บริษัทได้ปิดดีลการเข้าซื้อหุ้นสัดส่วนร้อยละ 67.61 เป็นที่เรียบร้อย ซึ่งจะส่งผลต่อการเติบโตของรายได้ในอนาคต ซึ่งล่าสุด TITLE เตรียมเปิดตัวโครงการใหม่เพื่อพร้อมรับความต้องการของนักท่องเที่ยว รวมถึงคนในพื้นที่ที่มีความต้องการคอนโดมิเนียมในการพักอาศัย ในช่วงไฮซีซั่นที่กำลังจะมาถึงนี้ โดยเป็นคอนโดมิเนียมแบบโลว์ไรส์ 2 โครงการ มูลค่าโครงการรวมกว่า 5,150 ล้านบาท ได้แก่ โครงการ THE TITLE LEGENDARY BANGTAO จำนวน 637 ยูนิต มูลค่าโครงการ 3,750 ล้านบาท และโครงการ THE TITLE LEGENDARY NAIYANG จำนวน 103 ยูนิต มูลค่าโครงการ 1,400 ล้านบาท ซึ่งจากแผนการเปิดตัวโครงการใหม่ดังกล่าว คาดว่าจะสามารถโอนกรรมสิทธิ์สร้างการรับรู้รายได้ต่อเนื่องถัดจากโครงการ THE TITLE HALO 1 NAIYANG ที่ปัจจุบันมียอดขายแล้วถึง 80% จากจำนวน ทั้งหมด 329 ยูนิต มูลค่าโครงการ 1,517 ล้านบาท ซึ่งจะรับรู้เป็นรายได้ในไตรมาส 1/2567 และบริษัทยังได้ตั้งเป้ารายได้ในอีก 3 ปีข้างหน้า (2567-2569) ที่ระดับ 10,000 ล้านบาท ซึ่งจะส่งให้ผลให้ ASW ในฐานะบริษัทแม่มีรายได้เติบโตอย่างแข็งแกร่งเฉลี่ย 20% ต่อปี
“ตลาดอสังหาริมทรัพย์ภูเก็ตในปัจจุบันมีความคึกคักมากมีผู้ประกอบการหลายรายเข้ามาพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ ในส่วนของคอนโดมิเนียมใหม่มีการปรับราคาขายต่อตารางเมตรเพิ่มขึ้น ตามราคาที่ดินจึงเป็นโอกาสดีของTITLE เนื่องจากมีที่ดินเดิมที่พร้อมพัฒนาในจังหวัดภูเก็ตอีกกว่า 80 ไร่ ซึ่งสามารถพัฒนาโครงการใหม่ได้ถึง 9 โครงการ มูลค่ารวมกว่า 14,000 ล้านบาท” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ASW กล่าว
อนึ่ง ASW ดำเนินธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ โดยมุ่งพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยแนวสูงและแนวราบบนทำเลศักยภาพ ภายใต้แนวคิด “ความสุขที่ออกแบบมาเพื่อคุณ” หรือ “We Build Happiness” ปัจจุบันได้พัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมและโครงการบ้านจัดสรรมาแล้วกว่า 54 โครงการ ภายใต้แบรนด์ในเครือที่ออกแบบมาเพื่อสร้างความสุขให้เหมาะกับทุกไลฟ์สไตล์ ได้แก่ แบรนด์ เคฟ (KAVE), แบรนด์ แอทโมซ (ATMOZ), แบรนด์ โมดิซ (MODIZ), แบรนด์ เอสต้า (ESTA) และ แบรนด์ ดิ ออเนอร์ (THE HONOR) รวมมูลค่าโครงการกว่า 63,200 ล้านบาท แบ่งเป็นโครงการที่ก่อสร้างแล้วเสร็จและโครงการพร้อมอยู่ 38 โครงการ และโครงการที่กำลังเปิดขายและอยู่ระหว่างการพัฒนา 16 โครงการ ปัจจุบันมียอดขายรอรับรู้รายได้ (Backlog) มูลค่ารวมกว่า 14,513 ล้านบาท
#bidennews #หมาป่าแห่งวอลสตรรีท