DEXON มุ่งหน้าสู่ Net Zero ตั้งเป้าลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ลงภายในปี 2030 และลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นศูนย์ในปี 2065
บมจ.เด็กซ์ซอน เทคโนโลยี ( DEXON ) บริษัทผู้นำด้านการพัฒนานวัตกรรมทางเทคโนโลยีที่ให้บริการการตรวจสอบระบบโครงสร้างทางวิศวกรรม และการตรวจสอบแบบไม่ทำลาย (NDT) ขานรับนโยบายชาติตั้งเป้าหมายองค์กร Net Zero Emission โดยการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ลงภายในปี 2030 (พ.ศ. 2573) และสร้างความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) ภายในปี 2050 (พ.ศ. 2593) และลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นศูนย์ในปี 2065 (พ.ศ. 2608) เพื่อดูแลชุน สังคม พร้อมดูแลเมืองอุตสาหกรรมจังหวัดระยองเปลี่ยนจากอุตสาหกรรมมลพิษสู่ Green & Digital CITY
สหประชาชาติ หรือ UN พยายามขับเคลื่อนให้องค์กรทางธุรกิจเข้ามามีส่วนร่วมในการแก้ปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมโลก ที่เกิดกการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศทั่วโลกอย่างรวดเร็วและรุนแรง จาก “ภาวะโลกร้อน” ที่กำลังเข้าสู่ “ภาวะโลกเดือด” ที่ส่งผลกระทบเป็นวงกว้าง ทั่วโลกต่างเร่งเดินหน้าเพื่อบรรลุเป้าหมายดังกล่าว และเด็กซ์ซอนขอเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนองค์กรตามนโยบายชาติ ซึ่งสอดรับกับ ESG (Environment, Social, Governance) ที่เน้นสร้างเศรษฐกิจไปสู่ความยั่งยืน ควบคู่กับสมดุลทางสังคมและสิ่งแวดล้อมอย่างโปร่งใส มุ่งสู่เป้าหมาย SDGs ของสหประชาชาติเพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าวได้ โดยเราเริ่มจากกิจกรรมเล็กๆภายในองค์กรด้วยโครงการติดตั้งระบบผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคาของอาคารสำนักงาน และอาคารวิจัยและพัฒนา หรือที่เรียกว่า “โซลาร์ รูฟท็อป (Solar Rooftop)” ซึ่งเป็นโครงการที่ช่วยสร้างมูลค่าเพิ่มทางธุรกิจ สร้างความมั่นคงทางพลังงานจากแหล่งพลังงานโซลาร์รูฟท็อปที่เพิ่มขึ้นมาอีกระบบหนึ่ง ช่วยให้การดำเนินกิจการมีความต่อเนื่อง และมีเสถียรภาพมากยิ่งขึ้น ด้วยการใช้พลังงานทางเลือกที่มีความสะอาด ปราศจากมลพิษ ควบคู่ไปกับการพัฒนาอย่างยั่งยืนให้มีความเป็นรูปธรรมได้อย่างชัดเจน หรือการส่งเสริมวัฒนธรรมในองค์กรสร้างความตระหนักในการใช้พลังงานให้กับพนักงานในทุกระดับซึ่งเป็นกลุ่มเป้าหมายและเป็นกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนนโยบายนี้จากตัวเองสู่ครอบครัว และชุมชน เป็นต้น นอกจากนั้นนวัตกรรมการตรวจสอบที่ทางบริษัทฯได้คิดค้นขึ้นมานั้นยังมีส่วนช่วยสร้างความมั่นใจเรื่องความปลอดภัยในกระบวนการผลิตในทุกๆอุตสาหกรรมให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ และเป็นการรักษาสิ่งแวดล้อมไปพร้อมกันด้วย เพราะหากเกิดสถาณการณ์ที่ไม่คาดคิดจะส่งผลกระทบด้านลบต่อสิ่งแวดล้อมเท่านั้น แต่ยังต้องเสียค่าใช้จ่ายจำนวนมากในการจัดการและซ่อมแซม อีกทั้งยังสามารถสนับสนุนภาพลักษณ์ที่ดีของทุกๆอุตสาหกรรม และสร้างความน่าเชื่อถือให้กับคู่ค้าหรือพาร์ทเนอร์ได้อีกด้วย
“เด็กซ์ซอน มีเจตนารมณ์ที่จะดำเนินธุรกิจบนพื้นฐานของหลักธรรมาภิบาล คำนึงถึงผลประโยชน์ของผู้มีส่วนได้เสียทุกกลุ่มเป็นสำคัญพร้อมเดินหน้าตามกลยุทธ์ ESG และขอเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศในจ.ระยอง และประเทศไทย พร้อมตอบสนองเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน เพื่อก้าวสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน และมุ่งมั่นในการสร้างนวัตกรรมเพื่อดูแลรักษาสิ่งแวดล้อมตลอดไป” ดร.มัลลิกา กล่าว
#bidennews #หมาป่าแห่งวอลสตรีท
