HENG โชว์ผลงานปี 65 พอร์ตสินเชื่อรวมทะลุ 12,000 ลบ. พร้อมบริหารจัดการควบคุมหนี้ลดหนี้ NPLs เหลือ 3% บอร์ดอนุมัติจ่ายเงินปันในอัตรา 0.0666 บาทต่อหุ้น
‘บมจ. เฮงลิสซิ่ง แอนด์ แคปปิตอล’ หรือ HENG หนึ่งในผู้ดำเนินธุรกิจให้บริการสินเชื่อรายใหญ่ของประเทศไทย ภายใต้แบรนด์ ‘เฮงลิสซิ่ง’ โชว์ความสำเร็จผลการดำเนินงานปี 2565 ขยายพอร์ตสินเชื่อรวมเติบโต 31% โดยมีรายได้รวม 2,124 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 461 ล้านบาท เพิ่มขึ้นกว่า 30% หลังบริหารจัดการคุณภาพลูกหนี้ได้มีประสิทธิภาพลดสัดส่วน NPLs เหลือ 3% ด้านบอร์ดฯ อนุมัติการจ่ายเงินปันผลในอัตรา 0.0666 บาทต่อหุ้น หรือคิดเป็นกว่า 55%พร้อมประเมินดีมานด์ความต้องการสินเชื่อยังเติบโตต่อเนื่องรับจังหวะเศรษฐกิจฟื้นตัว
นางสุธารทิพย์ พิสิฐบัณฑูรย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เฮงลิสซิ่ง แอนด์ แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) หรือ HENG หนึ่งในผู้ดำเนินธุรกิจให้บริการสินเชื่อรายใหญ่ของประเทศไทยภายใต้แบรนด์ ‘เฮงลิสซิ่ง’ เปิดเผยว่า ภาพรวมการดำเนินงานในปี 2565 บริษัทฯ ประสบความสำเร็จในการขยายพอร์ตสินเชื่อรวมเพิ่มเป็น 12,020 ล้านบาท หรือขยายตัว 31% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน ซึ่งความสำเร็จมาจากศักยภาพการให้บริการสินเชื่อ ตอบสนองความต้องการแหล่งเงินทุนของประชาชนในท้องถิ่นได้อย่างมีประสิทธิภาพ ภายหลังเปิดสาขาให้บริการครบ 678 แห่งได้ตามเป้าหมายทุกภูมิภาคของประเทศ ทำให้ HENG สามารถขยายฐานลูกค้ารายใหม่ ๆ เข้ามาใช้บริการสินเชื่อได้อย่างต่อเนื่อง โดยพอร์ตสินเชื่อที่มีหลักทรัพย์ค้ำประกัน มีสัดส่วน 96% ของพอร์ตสินเชื่อรวม โดยแบ่งสัดส่วนตามประเภทสินเชื่อประกอบด้วย ผลิตภัณฑ์สินเชื่อเช่าซื้อคิดเป็นสัดส่วน 56% และสินเชื่อจำนำทะเบียนรถ 39% ของพอร์ตสินเชื่อที่มีหลักประกัน และส่วนที่เหลืออีก 5% เป็นสินเชื่อที่มีบ้านและที่ดินเป็นหลักประกัน อีกทั้งรายได้จากค่านายหน้าประกันชีวิต และนายหน้าประกันวินาศภัยยังขยายโตโดดเด่นคิดจากปีก่อนถึง 88%
ทั้งนี้ ความสำเร็จดังกล่าวส่งผลให้บริษัทฯ มีรายได้รวมทั้งปี 2565 ทำได้ 2,124 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 30% และมีกำไรสุทธิ 461 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 30% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยผลตอบแทนจากการปล่อยสินเชื่อเช่าซื้ออยู่ที่ 15% ใกล้เคียงกับกรอบกำหนดอัตราดอกเบี้ยของหน่วยงานภาครัฐ สะท้อนถึงความสามารถการทำกำไรอยู่ในเกณฑ์ที่ดี สำหรับแผนกลุทธ์ของบริษัทฯ ที่มุ่งรุกให้บริการสินเชื่อจำนำทะเบียนรถมากขึ้นเพื่อขับเคลื่อนการเติบโต ส่งผลให้อัตราผลตอบแทนจากการปล่อยสินเชื่อเฉลี่ยโดยรวมทั้งปีอยู่ที่ 18% ประกอบกับการบริหารจัดการด้านคุณภาพลูกหนี้ที่มีประสิทธิภาพ ทำให้ต้นทุนการตั้งสำรองลูกหนี้ปรับลดลงเหลือ 4.5% จากเดิม 5.9% และหนี้ NPLs ปรับลดลงเหลือ 3% จากเป้าหมาย 3.1% ซึ่งทำได้ดีกว่าเป้าหมาย
ทั้งนี้ภายใต้การทำธุรกิจที่ให้ความสำคัญทางด้านการพัฒนาขององค์กรอย่างยั่งยืน (ESG) ที่ให้ความสำคัญทางด้านการทำธุรกิจ ที่คำนึงถึงความรับผิดชอบ 3 ด้านหลัก คือ สิ่งแวดล้อม สังคม การกำกับดูแล โดย Environment เป็นหลักเกณฑ์ที่คำนึงถึงในด้านความรับผิดชอบของบริษัทต่อสิ่งแวดล้อม Social เป็นหลักเกณฑ์ที่ใช้วัดว่าบริษัทมีการจัดการความสัมพันธ์และมีการสื่อสาร กับ ลูกจ้าง คู่ค้า ลูกค้า หรือผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย (stakeholders) อย่างไร และ Governance เป็นหลักการที่ใช้วัดว่าบริษัทมีการจัดการบริการความสัมพันธ์ในเชิงการกำกับดูแลอย่างไร เพื่อการบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพโปร่งใส ตรวจสอบได้ และคำนึงถึงผู้มีส่วนได้เสีย ทั้งนี้แนวคิด ESG ช่วยสร้างความน่าเชื่อถือให้แก่ธุรกิจ ด้วยการสะท้อนบทบาทความรับผิดชอบของธุรกิจที่มีต่อผู้มีส่วนได้เสีย และการนำเสนอผลการดำเนินงานในการพัฒนาธุรกิจให้เติบโตอย่างยั่งยืน
ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ เมื่อวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2566 จึงมีมติอนุมัติการจ่ายเงินปันผลงวดผลการดำเนินงานในปี 2565 ในอัตรา 0.0666 บาทต่อหุ้น คิดเป็นร้อยละ 55 ของกำไรสุทธิจากงบเฉพาะกิจการ สูงกว่านโยบายการจ่ายเงินปันผลที่กำหนดไว้ร้อยละ 40 ของกำไรสุทธิจากงบเฉพาะกิจการหลังหักภาษีเงินได้นิติบุคคลและหักทุนสำรองตามที่กฎหมายกำหนด โดยจะกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิ์ได้รับเงินปันผล (Record Date) ในวันที่ 3 มีนาคม 2566 และกำหนดจ่ายเงินปันผลในวันที่ 12 พฤษภาคม 2566 เพื่อตอบแทนแก่ผู้ถือหุ้นทุกท่าน
ส่วนภาพรวมสินเชื่อปี 2566 ยังคงขยายตัวได้ดีต่อเนื่อง จากความต้องการสินเชื่อไปประกอบอาชีพสอดคล้องกับการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวภายในประเทศที่ปรับตัวดีขึ้น โดยปีนี้ HENG ได้ตั้งเป้าขยายพอร์ตสินเชื่อรวมเพิ่มเป็น 14,400 ล้านบาทตามแผนที่วางไว้พร้อมยึดแนวทางการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน โดยคำนึงถึงสิ่งแวดล้อม มีความรับผิดชอบต่อสังคมและมีการบริหารงานภายใต้หลักบรรษัทภิบาลหรือ ESG โดยมุ่งหวังให้หุ้น HENG เป็นหนึ่งในหุ้นที่ได้รับการพิจารณาคัดเลือกเข้าสู่ดัชนี้หุ้นยั่งยืน หรือ THSI จากการจัดอันดับของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยทุกช่วงสิ้นปี เป็นทางเลือกสำหรับผู้ลงทุนที่ต้องการลงทุนตามแนวทางของการลงทุนอย่างมีความรับผิดชอบ
#bidennews #หมาป่าแห่งวอลสตรีท