Daily NewsRecent Posts

I2 เทรดวันแรกพุ่งเหนือจอง 15.56% เตรียมลุยขยายธุรกิจสร้าง New S Curve ล่าสุดคว้าโปรเจคยักษ์ มูลค่า 1.5 พันลบ.

บมจ.ไอ ทู เอ็นเตอร์ไพรซ์ (I2) ไม่ทำให้ผิดหวัง! เปิดเทรดวันแรกทะยานเหนือจอง 15.56% ตอกย้ำความเป็นหุ้นไฮบริด High Growth-High Dividend ฟากผู้บริหาร อธิพร ลิ่มเจริญ มั่นใจแนวโน้มผลงานในช่วง 1-3 ปีข้างหน้าโตก้าวกระโดด เตรียมนำเงินที่ระดมทุนไปขยายธุรกิจพลังงาน-ดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชั่น สร้าง New S Curve เพิ่มสัดส่วน Recurring Income หนุนผลการดำเนินงานเติบโตอย่างยั่งยืน สร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับผู้ถือหุ้น ล่าสุดประกาศข่าวดี!จรดปากกาเซ็นรับงานติดตั้งแบตฯเก็บพลังงานไฟฟ้า มูลค่า 1.5 พันล้านบาท บนพื้นที่เกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี ให้กับ พีอีเอ เอ็นคอม อินเตอร์เนชั่นแนลดัน Backlog พุ่งแตะ 2.5 พันล้านบาท สร้างสถิติสูงสุดใหม่

บมจ.ไอ ทู เอ็นเตอร์ไพรซ์ หรือ I2 เข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) ในวันที่ 8 สิงหาคม 2566 เป็นวันแรก ในกลุ่มอุตสาหกรรมเทคโนโลยี (TECH) ราคาขายไอพีโอ 2.70 บาท/หุ้น สร้างความประทับใจให้กับนักลงทุน โดยเปิดตลาดอยู่ที่ 3.12 บาท/หุ้น เพิ่มขึ้น 0.42 บาท  หรือ 15.56%

นายอธิพร ลิ่มเจริญ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไอ ทู เอ็นเตอร์ไพรซ์ จำกัด (มหาชน) (I2) ผู้นำธุรกิจ System Integrator (SI) แบบครบวงจร เปิดเผยว่า ราคาหุ้นที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นท่ามกลางมูลค่าซื้อขายหนาแน่น สะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่มีต่อปัจจัยพื้นฐานธุรกิจของบริษัทฯ ซึ่งเตรียมนำเงินที่ได้จากการระดมทุนในครั้งนี้ไปใช้สำหรับการขยายธุรกิจด้านพลังงาน และดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชั่น รวมไปถึงการเข้าซื้อกิจการธุรกิจที่เกี่ยวเนื่อง เพื่อสร้าง New S Curve และเพิ่มสัดส่วนรายได้ประจำ (Recurring Income) สนับสนุนธุรกิจเติบโตอย่างแข็งแกร่งและยั่งยืนในอนาคต

สำหรับเงินที่ได้จากการระดมทุนครั้งนี้ เตรียมนำไปใช้ดังนี้  1.ใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในงานโครงการขนาดใหญ่แก่หน่วยงานภาครัฐและรัฐวิสาหกิจ ภายในปี 2567 จำนวน 200 ล้านบาท  2.เพื่อใช้ในการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ การลงทุนในธุรกิจอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องเพื่อสร้างการเติบโตให้กับบริษัทฯ ขึ้นอยู่กับโอกาสทางธุรกิจ และความเหมาะสมในการลงทุนในอนาคต ซึ่งอาจรวมถึงการขยายธุรกิจโดยการเข้าซื้อกิจการอื่น  ภายในปี 2567 จำนวน 100 ล้านบาท   และ 3.ส่วนที่เหลือใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน

ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร I2 กล่าวอีกว่า เมื่อวันที่ 7 สิงหาคม 2566 ที่ผ่านมา กิจการค้าร่วมไอทูวาร์ (บมจ.ไอ ทู เอ็นเตอร์ไพรซ์ กับ บริษัท วี เอ อาร์ เอส จำกัด) ได้ร่วมลงนามสัญญาจ้าง โครงการจัดซื้อพร้อมติดตั้งระบบกักเก็บพลังงานไฟฟ้าด้วยแบตเตอรี่ (Battery Energy Storage System : BESS) บนพื้นที่เกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี กับ บริษัท พีอีเอ เอ็นคอม อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด โดยมีมูลค่าโครงการรวม 1,541.28 ล้านบาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) ซึ่ง BESS (Battery Energy Storage System) หรือ เทคโนโลยีระบบกักเก็บพลังงานด้วยแบตเตอรี่ จะช่วยลดความผันผวนในระบบไฟฟ้าที่มาจากพลังงานหมุนเวียนทั้งพลังงานลมและพลังงานแสงอาทิตย์ที่ผลิตไฟฟ้าได้เป็นบางช่วงเวลา แบตเตอรี่นี้จะทำหน้าที่กักเก็บสะสมพลังงานส่วนเกินจากระบบส่ง เพื่อนำไฟฟ้ามาจ่ายในช่วงเวลาที่ต้องการได้

“ผมเชื่อมั่นว่าผลการดำเนินงานในครึ่งปีหลังของ I2 จะเติบโตอย่างก้าวกระโดด จากแผนงานที่วางไว้ในการขยายธุรกิจใหม่ และจากงานในมือรอรับรู้รายได้ (Backlog) ที่มีกว่า 2.5 พันล้านบาท ที่จะทยอยส่งมอบและรับรู้รายได้อย่างต่อเนื่อง ถือเป็นการสร้างสถิติสูงสุดใหม่นับตั้งแต่จัดตั้งบริษัท  รวมถึงการมี บมจ.เอ็ม เอฟ อี ซี  (MFEC) เป็น  Strategic Partner จะยิ่งทำให้บริษัทฯมีความแข็งแกร่ง และเพิ่มโอกาสในการเข้ารับงานใหม่ๆในอนาคต สนับสนุนให้แนวโน้มผลการดำเนินงานในช่วง 1-3 ปีข้างหน้า เติบโตอย่างมีนัยสำคัญ” นายอธิพรกล่าว

นายพายุพัด มหาผล กรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวาณิชธนกิจ บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด ที่ปรึกษาทางการเงินร่วมและผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้นสามัญเพิ่มทุน กล่าวว่าการเข้าเทรดวันแรกของหุ้น I2 ได้รับการตอบรับอย่างดีเยี่ยมจากนักลงทุน สะท้อนให้เห็นความเชื่อมั่นที่มีต่อปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่ง ซึ่งเห็นได้จากผลการดำเนินงานในช่วงที่ผ่านมาเติบโตสูงกว่าอุตสาหกรรม และเงินที่ได้จากการขายไอพีโอในครั้งนี้ วัตถุประสงค์หลักในการใช้เงินส่วนใหญ่คือนำไปใช้ขยายธุรกิจ เพื่อเพิ่มโอกาสในการสร้างรายได้ให้เติบโตอย่างก้าวกระโดดในอนาคต ทำให้มั่นใจว่า I2 จะเป็นหุ้น Hybrid ที่ผสมผสานกันระหว่าง Growth Stock และ Dividend Stock

นางสาวมนวลัย รัชตกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอส 14 แอดไวเซอรี่ จำกัด ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน กล่าวว่า อีกจุดเด่นที่ทำให้หุ้น I2 ได้รับความสนใจจากนักลงทุนอย่างดีเยี่ยม  คือการดำเนินธุรกิจด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ และการสื่อสาร ซึ่งอยู่ในเมกะเทรนด์ สอดคล้องกับแนวทางการพัฒนาประเทศไทย  อีกทั้งภายหลังจากได้รับเงินจากการขายหุ้นไอพีโอ บริษัทฯมีแผนลงทุนขยายธุรกิจที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะในส่วนธุรกิจโซลูชั่นด้านการจัดการและประหยัดพลังงาน (Energy) เพิ่มเติม ซึ่งเป็นธุรกิจที่มีมาร์จิ้นสูง กำลังเป็นที่ต้องการของกลุ่มลูกค้า เพิ่มโอกาสการรับงานในอนาคต ผลักดันแนวโน้มผลการดำเนินงานเติบโตอย่างก้าวกระโดด

#bidennews #หมาป่าแห่งวอลสตรีท

Related Articles

Back to top button