JMART-JMT จูงมือยกระดับเข้าสู่ SET50 สะท้อนความแข็งแกร่ง
โดย นายอดิศักดิ์ สุขุมวิทยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. เจ มาร์ท (JMART) Technology Investment Holding Company (T-IHC) เปิดเผยว่า นับเป็นการสะท้อนความแข็งแกร่งของ JMART JMT และ SINGER ตลอดจนบริษัทในเครือที่ขับเคลื่อนธุรกิจได้ตามเป้าหมาย และการขยายไปยังโอกาสใหม่ๆ ครอบคลุมด้านธุรกิจค้าปลีก ธุรกิจการเงิน และเทคโนโลยี แบบที่ไม่มีบริษัทไหนในตลาดหลักทรัพย์มี พิสูจน์ด้วยผลการดำเนินงานสามารถบันทึกสถิติสูงสุดใหม่ได้ต่อเนื่อง อีกทั้ง การต่อจิ๊กซอว์ร่วมกับพันธมิตรทั้งในและต่างประเทศ สนับสนุนโอกาสในระยะยาว นอกจากนี้ การเติบโตของของ JMT ภายใต้การนำของ “นายสุทธิรักษ์ ตรัยชิรอาภรณ์” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ซึ่งเป็นผู้นำในธุรกิจบริหารหนี้ด้อยคุณภาพแบบไม่มีหลักประกันอันดับหนึ่งของประเทศ สามารถสร้างความเชื่อมั่นต่อผู้ถือหุ้นและนักลงทุน ควงคู่ยกระดับการลงทุนสู่ตลาด SET50 ได้อย่างเต็มภาคภูมิ แย้มเตรียมเปิดแผน Joint Venture กับกลุ่มธุรกิจธนาคารกสิกรไทยเร็วๆ นี้
อย่างไรก็ดี สถานการณ์แพร่ระบาดของโรคโควิด-19 คลี่คลายในหลายประเทศทั่วโลก และเริ่มมีการเปิดประเทศให้สามารถเดินทางได้ กลุ่มบริษัทเจมาร์ทได้นำทัพทีมผู้บริหารเดินสายโรดโชว์พบปะนักลงทุนและกองทุนชั้นนำในต่างประเทศเช่นกัน นับเป็นการสะท้อนความน่าสนใจของกลุ่มบริษัท อีกทั้งยังเป็นการสร้างโอกาสในการนำเสนอ พบปะ แนะนำข้อมูลกลุ่มธุรกิจให้เกิดความเชื่อมั่นในอนาคตได้
นอกจากนี้ SINGER ที่นำโดย “นายกิตติพงศ์ กนกวิไลรัตน์” กรรมการผู้จัดการใหญ่ หนึ่งในผู้นำธุรกิจสินเชื่อเช่าซื้อและสินเชื่อจำนำทะเบียนรถที่เติบโตอย่างมีนัยสำคัญ และเข้าถึงลูกค้าผ่านตัวแทนขายที่กระจายอยู่ทั่วประเทศ เป็นโมเดลการขายที่อยู่คู่คนไทยมากว่า 130 ปี สามารถยืนได้ในดัชนี SET100 และยังเข้าดัชนี SET Well Being Index หรือ SETWB ดัชนีที่สะท้อนการเคลื่อนไหวของกลุ่มหลักทรัพย์ 30 หลักทรัพย์ใน 7 หมวดธุรกิจที่ประเทศไทยมีศักยภาพในการแข่งขันและเป็นธุรกิจที่ผู้ลงทุนต่างชาติให้ความสนใจ รวมทั้ง ช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตที่ดีให้แก่คนไทย จึงนับเป็นความภาคภูมิใจของคณะผู้บริหารและทีมงานทุกคน
สำหรับการทบทวนรายชื่อหลักทรัพย์ที่ใช้สำหรับคำนวณดัชนีดังกล่าวจะดำเนินการทุกครึ่งปี และเป็นไปตามหลักเกณฑ์การคัดเลือกหลักทรัพย์ที่ตลาดหลักทรัพย์ฯ กำหนด ทั้งนี้ การทบทวนในครั้งนี้ใช้ข้อมูลระหว่าง 1 มิถุนายน 2564 ถึง 31 พฤษภาคม 2565
อย่างไรก็ดี JMART GROUP ยังคงตั้งเป้าหมายการเติบโตต่อเนื่อง วางปี 65 เป็นปีแห่งการต่อยอดพันธมิตร ด้วย 3 กลยุทธ์หลักด้าน Synergy – New Partner – New Business เพื่อสนับสนุนการเติบโตแบบ Exponential Growth โดย JMART ตั้งเป้าปี 65 กำไรโต 50%
ด้าน JMT วางเป้าหมายกำไรเติบโต 45% จากภาพรวมหนี้ด้อยคุณภาพในระบบที่ทยอยออกมาเพิ่มขึ้นในปีนี้ โดยวางงบลงทุนซื้อหนี้ไว้ราว 10,000 ล้านบาท ทั้งหนี้ด้อยคุณภาพแบบมีหลักประกัน และไม่มีหลักประกันเข้ามาบริหาร
ขณะที่ SINGER วางเป้าหมายเติบโตแรงที่ระดับ 75% และมุ่งสู่เป้าหมายมีร้านสาขาย่อยและแฟรนไชส์ 7,000 แห่ง เป็น Hub ในการขยายผลิตภัณฑ์ บริการ และเครือข่ายที่สามารถเข้าถึงลูกค้าได้ทั่วประเทศ ส่วนพอร์ตสินเชื่อรวมคาดสิ้นปีอยู่ที่ 15,500 ล้านบาท จากปีก่อนมีพอร์ตรวมอยู่ที่ 10,962 ล้านบาท และไฮไลท์ ในการนำบริษัท เอสจี แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) (SGC) ซึ่งเป็นบริษัทในเครือ เข้ามาจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยในปีนี้ ปัจจุบัน ยื่นไฟลิ่งเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
#bidennews #หมาป่าแห่งวอลสตรีท