KCC เดินหน้าสร้างการเติบโตตามแผน ไตรมาสแรกกำไรพุ่ง 28.92 ลบ. โต 325% YoY และพุ่งขึ้น 51.26% QoQ
นายทวี กุลเลิศประเสริฐ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บริหารสินทรัพย์ ไนท คลับ แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) หรือ KCC ผู้ดำเนินธุรกิจจัดหาและบริหารจัดการสินทรัพย์ด้อยคุณภาพและธุรกิจบริหารจัดการทรัพย์สินรอการขายและการปรับปรุงทรัพย์สินรอการขายเพื่อจำหน่าย เปิดเผยว่า เดือนพฤษภาคม 2566 ครบรอบ 1 ปี ที่บริษัทได้เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ mai โดยเสนอขายหุ้นให้กับประชาชนครั้งแรก (IPO) และเข้าซื้อขาย เมื่อวันที่ 5 พ.ค.2565 บริษัทเดินหน้าทำธุรกิจ ตามที่ได้ระบุไว้ในหนังสือชี้ชวน สามารถสร้างการเติบโตที่แข็งแกร่ง สร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับนักลงทุนที่เข้ามาลงทุนในหุ้นของบริษัท และมีกำไรต่อเนื่องทุกไตรมาส
นายทวี กล่าวว่า ผลดำเนินงานงวดไตรมาส 1 ปี 2566 บริษัทมีกำไรสุทธิ 28.92 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 22.12 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 325.29 % เมื่อเทียบกับไตรมาสที่ผ่านมาที่มีกำไรสุทธิ 6.80 ล้านบาท และเพิ่มขึ้น 51.26 % เทียบงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 19.12 ล้านบาท โดยสาเหตุหลักเกิดจากการเพิ่มขึ้นของกำไรจากการขายทรัพย์สินรอการขายที่เพิ่มขึ้น และการลดลงของผลขาดทุนด้านเครดิตฯ และเมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน
“บริษัทมีกำไรต่อเนื่องทุกปีโดยปี 2564 มีกำไรสุทธิ 52.42 ล้านบาท ปี 2565 มีกำไรสุทธิ 77.24 ล้านบาทและ ไตรมาสแรกปีนี้กำไร 28.92 ล้านบาท ขณะที่อัตรากำไรสุทธิก็สูงขึ้นต่อเนื่องโดยไตรมาสแรกปีนี้มีอัตรากำไรสุทธิ 50.78% เพิ่มขึ้นจากสิ้นปีก่อนที่อัตรากำไรสุทธิอยู่ที่ 37.79%”
นายทวี ระบุว่า ไตรมาสแรกปีนี้ บริษัทมีรายได้จากการดำเนินงาน 48.01 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 13.82% จากไตรมาสที่ผ่านมา เนื่องจากการเพิ่มขึ้นของกำไรจากการรับชำระหนี้ และกำไรจากการขายทรัพย์สินรอการขายและเพิ่มขึ้น 22.57 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 88.72% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน จากการเพิ่มขึ้นของรายได้ดอกเบี้ยรับในลูกหนี้ และกำไรจากการขายทรัพย์สินรอการขาย
ทั้งนี้ รายได้จากการดำเนินงานส่วนใหญ่มาจาก รายได้จากธุรกิจบริหารจัดการสินทรัพย์ด้อยคุณภาพซึ่งเท่ากับ 42.89 ล้านบาท หรือคิดเป็น 89.33 % ของรายได้จากการดำเนินงานทั้งหมด และส่วนที่เหลือเป็นกำไรจากการขายทรัพย์สินรอการขายโดย ไตรมาส 1 ปี 2566 กำไรจากการขายทรัพย์สินรอการขายเพิ่มขึ้น169.89 % เมื่อเทียบกับไตรมาสที่ผ่านมาและ110.92 % เทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากจากบริษัทสามารถจำหน่ายทรัพย์สินรอการขายได้มากขึ้นในไตรมาสนี้
ขณะที่ผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้น (ผลขาดทุนด้านเครดิตฯ) ไตรมาส 1 ของปี 2566 บริษัทฯ มีผลขาดทุนด้านเครดิตฯ ลดลง 20.78 ล้านบาท เมื่อเทียบกับไตรมาสที่ผ่านมาจากการโอนกลับรายการผลขาดทุนด้านเครดิตฯ เนื่องจากมีลูกหนี้สินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยหลายรายทำการปิดบัญชีกับบริษัทฯ ประกอบกับบริษัทฯ สามารถบริหารจัดการลูกหนี้ได้เป็นไปตามประมาณการที่ตั้งไว้ จึงไม่มีการตั้งผลขาดทุนด้านเครดิตฯเพิ่มขึ้น
นายทวี กล่าวว่า บริษัทรับโอนสินทรัพย์ด้อยคุณภาพใหม่ จำนวน 183.88 ล้านบาท ซึ่งเป็นลูกหนี้ประเภทสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย และได้ ออกหุ้นกู้จำนวน 500.00 ล้านบาท วัตถุประสงค์เพื่อใช้ลงทุนในสินทรัพย์ด้อยคุณภาพ และทรัพย์สินรอการขาย และบางส่วนเป็นเงินทุนหมุนเวียนในธุรกิจและ มีเงินรับจำนวน 62.52 ล้านบาท ซึ่งเพิ่มขึ้น 115.14 % เมื่อเทียบกับไตรมาสที่ผ่านมา
#bidennews #หมาป่าแห่งวอลสตรีท