NAM เคาะราคาขายหุ้น IPO 7.70 บาท เปิดให้นักลงทุนจองซื้อ 19-20, 24 ต.ค. นี้ จ่อซื้อขายวันแรกในตลาดหลักทรัพย์ฯ (SET) ปลายเดือนตุลาคมนี้
‘บมจ. นำวิวัฒน์ เมดิคอล คอร์ปอเรชั่น’ หรือ NAM เปิดยุทธศาสตร์ผู้นำอุตสาหกรรมผลิต นำเข้า และจัดจำหน่ายเครื่องมือทางการแพทย์กลุ่มงานปราศจากเชื้อในประเทศไทย ชูกลยุทธ์สร้างการเติบโตผ่าน 5 แนวทาง รุกต่อยอดสู่ตลาดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในอนาคต ประกาศราคาเสนอขายหุ้น IPO ที่ 7.70 บาทต่อหุ้น พร้อมเปิดให้นักลงทุนรายย่อยจองซื้อวันที่ 19-20, 24 ตุลาคม 66 คาดนำหุ้นเข้าซื้อขายวันแรกในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ปลายเดือนตุลาคมนี้
บริษัท นำวิวัฒน์ เมดิคอล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ NAM ได้แต่งตั้งบริษัทหลักทรัพย์ ฟินันซ่า จำกัด เป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย พร้อมแต่งตั้งบริษัทหลักทรัพย์อีก 4 ราย เป็นผู้จัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้น IPO ของ NAM ประกอบด้วยบริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน), บริษัทหลักทรัพย์ เคจีไอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน), บริษัทหลักทรัพย์ ลิเบอเรเตอร์ จำกัด, และบริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน)
คุณวิโรจน์ ชัยเทอดเกียรติ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท นำวิวัฒน์ เมดิคอล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (บริษัทฯ) หรือ NAM เปิดเผยว่า บริษัทฯ มุ่งมั่นก้าวสู่ผู้นำในอุตสาหกรรมผลิต นำเข้า และจัดจำหน่ายเครื่องมือและอุปกรณ์ทางการแพทย์กลุ่มงานปราศจากเชื้อในประเทศไทย ภายใต้วิสัยทัศน์ “การเป็นบริษัทชั้นนำด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรมทางการแพทย์” ที่พร้อมขับเคลื่อนองค์กรสู่การเติบโตระดับโลก เพื่อส่งเสริมหน่วยงานทางการแพทย์แบบครบวงจรในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งการเข้าระดมทุนครั้งนี้จะช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันเพื่อรองรับโอกาสทางธุรกิจ
บริษัทฯ มีกลยุทธ์และแนวทางการดำเนินธุรกิจเพื่อให้สามารถบรรลุเป้าหมายการเติบโต ผ่าน 5 แนวทาง ได้แก่ (1.) รักษาการเติบโตของกลุ่มสินค้าและบริการที่มีอยู่ในปัจจุบันให้มียอดขายเพิ่มมากขึ้น ทั้งในส่วนของฐานลูกค้าเดิมที่เคยซื้อสินค้าหรือใช้บริการอยู่แล้ว โดยเฉพาะกลุ่มลูกค้าโรงพยาบาลภาครัฐ รวมถึงเพิ่มลูกค้าในกลุ่มโรงพยาบาลเอกชน คลินิก หรือหน่วยงานองค์กรทางสาธารณสุขอื่นๆ ที่ยังมีสัดส่วนการซื้อสินค้าหรือใช้บริการในปริมาณน้อย (2.) เพิ่มสัดส่วนการผลิตและจำหน่ายสินค้าทางการแพทย์อื่นๆ เน้นการวิจัยพัฒนาและผลิตได้เองในขอบเขตความสามารถของโรงงานในปัจจุบันและที่จะขยายเพิ่มในอนาคต เพื่อเพิ่มความหลากหลายของประเภทสินค้าและลดต้นทุนจากการนำเข้าสินค้าหรือวัตถุดิบจากต่างประเทศ (3.) ขยายการส่งออกสินค้าและบริการไปยังกลุ่มลูกค้าเป้าหมายในต่างประเทศ โดยจัดเตรียมโครงสร้างองค์กรเพื่อมอบหมายและดูแลการเติบโตของธุรกิจในต่างประเทศขึ้นโดยเฉพาะ (4.) มุ่งเน้นการเติบโตในกลุ่มธุรกิจที่นอกเหนือจากหน่วยงานหรือองค์กรทางสาธารณสุข โดยเล็งเห็นว่ากลุ่มธุรกิจดังกล่าวมีความจำเป็นต้องใช้สินค้าเพื่อทำให้ปราศจากเชื้อในการประกอบธุรกิจเช่นเดียวกัน และ (5.) ขยายการลงทุนเพิ่มเติมในธุรกิจ มุ่งเน้นการขยายศักยภาพด้านการผลิตสินค้าทางการแพทย์ที่ทันสมัยและครอบคลุมทุกความต้องการทั้งในและต่างประเทศ เพื่อผลักดันให้ NAM ก้าวขึ้นเป็นบริษัทผู้ผลิตเครื่องมือทางการแพทย์กลุ่มงานปราศจากเชื้อระดับแนวหน้าของไทย และต่อยอดสู่ตลาดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในอนาคต
ปัจจุบัน NAM มีผลิตภัณฑ์และบริการแบ่งได้เป็น 3 กลุ่มหลัก ได้แก่ 1.) กลุ่มผลิตและจำหน่ายเครื่องมือทางการแพทย์ (SM) 2.) กลุ่มผลิตและจำหน่ายวัสดุสิ้นเปลืองทางการแพทย์ (CS) และ 3.) กลุ่มงานให้บริการ (SV) นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังเป็นผู้วิจัย ผลิตและจำหน่ายเครื่องมือแพทย์ที่ทำให้ปราศจากเชื้อ สำหรับเครื่องมือและอุปกรณ์ทางการแพทย์ โดยที่ผ่านมาบริษัทฯ คิดค้นและพัฒนาจนมีสิทธิบัตร (Patent) เป็นของตนเอง และยังขึ้นทะเบียนบัญชีนวัตกรรมกลุ่มนวัตกรรมทางการแพทย์ในประเทศ โดยประยุกต์ใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัยในการผลิต เพื่อให้ได้คุณภาพและมาตรฐานเป็นที่ยอมรับในระดับสากล อาทิ มาตรฐาน ASME, ISO 13485, ISO9001, ISO14001, PED และ CE Mark เป็นต้น และยังได้รับตราสัญลักษณ์ Thailand Trust Mark ประทับบนฉลากสินค้าอีกด้วย ทั้งนี้ ด้วยความมุ่งมั่นพัฒนานวัตกรรมทางการแพทย์ซึ่งมีสิทธิบัตรในผลิตภัณฑ์เป็นของตนเอง และการผลิตเครื่องมือทางการแพทย์ภายใต้มาตรฐานสากล ทำให้กลุ่มลูกค้ามีความเชื่อมั่นในตัวผลิตภัณฑ์และบริการที่เกี่ยวเนื่องกับทางการแพทย์ ส่งผลให้ธุรกิจของบริษัทฯ มีการเติบโตที่ดีอย่างต่อเนื่อง โดยมีฐานลูกค้าที่สำคัญเป็นโรงพยาบาลและหน่วยงานองค์กรทางด้านสาธารณสุขกว่า 1,200 แห่ง และสามารถขยายตลาดไปยังต่างประเทศ เช่น ออสเตรเลีย จีน มาเลเซีย เวียดนาม เมียนมาร์ และสปป.ลาว เป็นต้น
คุณสุขุม โพธิสวัสดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่สายงานบัญชีและการเงิน NAM กล่าวว่า บริษัทฯ ถือว่าเป็นผู้ผลิต นำเข้า และจัดจำหน่ายเครื่องมือและอุปกรณ์ทางการแพทย์กลุ่มงานปราศจากเชื้อที่อยู่ในระดับชั้นนำของประเทศ เมื่อพิจารณาจากการเติบโตของรายได้อย่างต่อเนื่องตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ประกอบกับบริษัทฯ มีแผนกวิจัยและพัฒนา (Research and Development) ภายในองค์กร โดยนำข้อมูลพื้นฐานความต้องการของลูกค้ามาปรับใช้ในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้ตรงความต้องการมากที่สุด เพื่อส่งมอบคุณค่าที่ดีที่สุดให้กับลูกค้าขององค์กร ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของบริษัทฯ ที่จะก้าวขึ้นเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมการผลิต นำเข้า และจัดจำหน่ายเครื่องมือและอุปกรณ์ทางการแพทย์และให้บริการอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง แบบครบวงจรในอนาคต
สำหรับผลการดำเนินงานงวด 6 เดือนแรกปี 2566 บริษัทฯ มีรายได้จากการขายและบริการรวม 594.36 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 16.55 จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ทำได้ 509.98 ล้านบาท ขณะที่กำไรสุทธิทำได้ 92.06 ล้านบาท คิดเป็นอัตราการเติบโตร้อยละ 82.31 เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันในปี 2565 และมีอัตรากำไรสุทธิเพิ่มขึ้นจากร้อยละ 15.81 ในปี 2565 เป็นร้อยละ 15.45 ในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2566 ซึ่งเป็นการเติบโตทั้งกลุ่มธุรกิจการขายสินค้าและกลุ่มธุรกิจการให้บริการ โดยเฉพาะสินค้ากลุ่มเครื่องมือแพทย์มีการเติบโตทั้งด้านรายได้และอัตรากำไร เนื่องจากสามารถควบคุมต้นทุนการผลิตให้มีประสิทธิภาพและควบคุมการเบิกใช้วัตถุดิบตามแผนการผลิตอย่างเหมาะสม
คุณวีณา เลิศนิมิตร Executive Chairwoman บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันซ่า จำกัด ในฐานะผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย กล่าวว่า บมจ.นำวิวัฒน์ เมดิคอล คอร์ปอเรชั่น ได้กำหนดราคาเสนอขายหุ้นสามัญแก่ประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) ที่ราคา 7.70 บาทต่อหุ้น หุ้นคิดเป็นอัตราส่วนราคาต่อกำไรสุทธิ (P/E) เท่ากับ 24.81 เท่า หากพิจารณาผลกำไรสุทธิส่วนที่เป็นของผู้ถือหุ้นของบริษัทฯ ในช่วง 12 เดือนย้อนหลัง ถือเป็นราคาที่เหมาะสมที่สะท้อนพื้นฐานและศักยภาพการเติบโต โดยเตรียมเปิดให้นักลงทุนจองซื้อหุ้น IPO ในวันที่ 19-20 และ 24 ตุลาคม 2566 กำหนดจองซื้อขั้นต่ำ 1,000 หุ้น ทวีคูณ 100 หุ้น และคาดว่าจะนำหุ้นเข้าจดทะเบียนและซื้อขายวันแรกในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ภายในเดือนตุลาคมนี้
คุณวรชาติ ทวยเจริญ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ฟินเน็กซ์ แอ๊ดไวเซอรี่ จำกัด ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน กล่าวว่า การเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ของ NAM ถือเป็นก้าวสำคัญในการเพิ่มศักยภาพและฐานะทางการเงิน เพื่อรองรับแผนขยายการลงทุนพัฒนาศูนย์วิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์เครื่องมือทางการแพทย์ ขยายโรงงานใหม่ เพิ่มขีดความสามารถการผลิตผลิตภัณฑ์ รวมถึงรองรับโครงการลงทุนหรือร่วมลงทุนในบริษัทอื่นๆ ที่ประกอบธุรกิจเครื่องมือทางการแพทย์หรือมีนวัตกรรมที่ส่งเสริมการประกอบธุรกิจเพื่อรองรับการเพิ่มขึ้นของจำนวนโรงพยาบาลเอกชน และรองรับความต้องการของผู้ป่วยชาวไทยและต่างชาติที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ซึ่งจะช่วยสร้างความได้เปรียบทางการแข่งขันด้วยการนำเสนอบริการที่มีมาตรฐานที่เป็นที่ยอมรับในระดับสากล
คุณกำพล ทรวงบูรณกุล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์ ธนชาต จำกัด (มหาชน) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน กล่าวว่า ปัจจุบันผู้ประกอบการที่ดำเนินธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมเครื่องมือแพทย์ที่ใช้ในการทำความสะอาดและฆ่าเชื้ออุปกรณ์ทางการแพทย์ยังมีไม่มากนัก เนื่องจากผู้ประกอบการแต่ละรายอาจไม่ได้ให้บริการผลิตภัณฑ์และรูปแบบบริการที่ครบวงจรเช่นเดียวกันกับ NAM ซึ่งครอบคลุมตั้งแต่การผลิต นำเข้า และจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์เครื่องมือและอุปกรณ์ทางการแพทย์สำหรับการทำความสะอาดและฆ่าเชื้ออุปกรณ์ทางการแพทย์ ประกอบกับการคิดค้นและพัฒนาจนมีสิทธิบัตร (Patent) เป็นของตนเอง ทำให้สามารถขึ้นทะเบียนบัญชีนวัตกรรมกลุ่มนวัตกรรมทางการแพทย์ในประเทศ นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังได้ประยุกต์ใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัยในการผลิตเพื่อให้ได้คุณภาพและมาตรฐานจนเป็นที่ยอมรับระดับสากล ทำให้ NAM มีความโดดเด่น และเป็นหนึ่งในหุ้นที่น่าจับตามอง
#bidennews #หมาป่าแห่งวอลสตรีท