SNNP โชว์ Q3/65 กำไรพุ่งทะลัก 139% โค้งสุดท้ายลุยออกสินค้าใหม่เพิ่ม ดันรายได้ปีนี้ทะลุเป้า 5,000 ลบ.
บมจ.ศรีนานาพร มาร์เก็ตติ้ง (SNNP) โชว์ผลงาน Q3/65 กำไรพุ่ง 139% แตะระดับ 142 ล้านบาท ทำนิวไฮ ขณะที่รายได้รวมอยู่ที่ 1,487 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 51% เนื่องจากนโยบายเปิดประเทศท่องเที่ยวฟื้น ปรับโฉมสินค้าใหม่ผลตอบรับดีเยี่ยม ดันยอดขายทำนิวไฮตามนัด ฟากผู้บริหาร “วิโรจน์ วชิรเดชกุล” ลั่นปูพรมบุกตลาดทั้งในและต่างประเทศเต็มพิกัด พร้อมเดินหน้าสายการผลิตโรงงานในเวียดนาม ดันยอดขายในเวียดนามทะลุ 2,000 ล้านบาทในปี 2569 มั่นใจผลงานปีนี้รายได้โตทะลุเป้า 5,000 ล้านบาท สร้างสถิติสูงสุดใหม่ต่อเนื่อง
นายวิโรจน์ วชิรเดชกุล รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส สายงานธุรกิจในประเทศ บริษัท ศรีนานาพร มาร์เก็ตติ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ SNNP ผู้นำผลิตภัณฑ์เครื่องดื่ม และขนมขบเคี้ยวของประเทศไทย เปิดเผยว่า ภาพรวมผลการดำเนินงาน สิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2565 สำหรับงวดไตรมาส 3/2565 มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 142 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 82 ล้านบาท หรือ 139% จากงวดเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิเท่ากับ 60 ล้านบาท ส่วนรายได้รวมอยู่ที่ 1,487 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 501 ล้านบาท หรือ 51% เทียบงวดเดียวกันของปีก่อนมีรายได้รวมเท่ากับ 986 ล้านบาท
ในขณะที่งวด 9 เดือนของปี 2565 บริษัทฯมีกำไรสุทธิจากธุรกิจหลัก ซึ่งไม่รวมกำไรพิเศษ อยู่ที่ 383 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 165 ล้านบาท หรือ 76% เทียบงวดเดียวกันของปีก่อนโดยมีกำไรสุทธิดังกล่าวอยู่ที่ 218 ล้านบาท ส่วนรายได้รวมจากธุรกิจหลักอยู่ที่ 3,924 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 861 ล้านบาท หรือ 28% เทียบงวดเดียวกันของปีก่อนมีรายได้รวมเท่ากับ 3,063 ล้านบาท
ปัจจัยที่สนับสนุนให้กำไรสุทธิปรับตัวเพิ่มขึ้น และทำสถิตินิวไฮ เนื่องจากนโยบายการเปิดประเทศสนับสนุนการท่องเที่ยวฟื้นตัวอย่างชัดเจน ทำให้กำลังซื้อเพิ่มสนับสนุนยอดขายในประเทศและต่างประเทศขยายตัวได้ดี และสามารถเติบโตได้มากกว่าภาพรวมของอุตสาหกรรม ขณะที่บริษัทฯมีการวางกลยุทธ์ทางด้านการตลาดจะมีการปรับโฉมสินค้า รวมถึงการเปิดตัวหนังโฆษณาชุดใหม่ๆ เพื่อสื่อสารทางการตลาดกับกลุ่มผู้บริโภค และเดินหน้าพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ทยอยออกสู่ตลาด เพื่อรองรับความต้องการของผู้บริโภคทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งมีกระแสตอบรับเป็นอย่างดี
ทั้งนี้ การเปิดโรงงาน S.T.FOOD MARKETING ในประเทศเวียดนามเมื่อช่วงไตรมาส3 ที่ผ่านมาจะช่วยสนับสนุนรายได้ และกำไรให้เติบโตอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งจะใช้เป็นฐานการผลิต และศูนย์กระจายสินค้าที่สำคัญไปยังต่างประเทศมากขึ้นในอนาคต และมีแนวโน้มเติบโตแบบก้าวกระโดด ซึ่งบริษัทฯได้ตั้งเป้าหมายยอดขายในเวียดนามในปี 2569 อยู่ที่ประมาณ 2,000 ล้านบาท ซึ่งถือว่ามีอัตราการเติบโตถึง 7 เท่า ภายในระยะเวลา 5 ปี
รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส สายงานธุรกิจในประเทศ กล่าวอีกว่า แนวโน้มการดำเนินธุรกิจในช่วงท้ายปี บริษัทฯยังมีแผนออกผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ตามแผนที่วางไว้ เช่น ผลิตภัณฑ์ภายใต้แบรนด์สินค้าหลักอย่าง “เจเล่ “ และ “เบนโตะ” สามารถขยายตัวได้อย่างต่อเนื่อง ซึ่งจากผลงานในช่วง 9 เดือน ยังเติบโตได้ดี ทำให้มั่นใจว่าภาพรวมทั้งปี2565 แนวโน้มรายได้ในปีนี้จะพุ่งแตะที่ระดับ 5,000 ล้านบาท สร้างสถิติสูงสุดใหม่ตามเป้าหมายที่วางไว้
#bidennews #หมาป่าแห่งวอลสตรีท