STA รุกใหญ่ปี 2566 ทยอยขยายกำลังผลิตแล้วเสร็จอีก 8 โครงการ ดันกำลังการผลิตติดตั้งรวมเพิ่มเป็น 3.98 ล้านตัน/ปี
บมจ.ศรีตรังแอโกรอินดัสทรี (STA) รุกใหญ่ ทยอยขยายกำลังการผลิตยางแท่งและน้ำยางข้นแล้วเสร็จในปีนี้อีก 8 โครงการ เพิ่มกำลังการผลิตติดตั้งรวมอีก 25% หรือ 8 แสนตันต่อปี จาก 3.18 ล้านตันต่อปี เป็น 3.98 ล้านตันต่อปี เพื่อรองรับเป้าหมายเพิ่มปริมาณการขายยางธรรมชาติทุกประเภทในปีนี้เป็น 2 ล้านตัน จากสิ้นปีที่ผ่านมาอยู่ที่ 1.5 ล้านตัน ประเดิมไตรมาสแรกของปีนี้ขยายกำลังการผลิตยางแท่งแล้วเสร็จ 2 โครงการ ที่โรงงานจังหวัดสระแก้วและกาฬสินธุ์
นายวีรสิทธิ์ สินเจริญกุล กรรมการผู้จัดการใหญ่และกรรมการบริหาร บริษัท ศรีตรังแอโกรอินดัสทรี จำกัด (มหาชน) ผู้นำในธุรกิจยางธรรมชาติครบวงจรรายใหญ่ที่สุดของโลกและผู้ผลิตถุงมือยางรายใหญ่ที่สุดในประเทศไทย เปิดเผยว่า บริษัทฯ วางแผนขยายกำลังการผลิตยางธรรมชาติเชิงรุกในปี 2566 เพื่อรองรับเป้าหมายการเพิ่มปริมาณการขายยางธรรมชาติและผลักดันการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยจะมีกำลังการผลิตใหม่ทยอยแล้วเสร็จภายในปีนี้รวม 8 โครงการ รวมทั้งสิ้น 8 แสนตันต่อปี ประกอบด้วย การขยายกำลังการผลิตยางแท่ง 7 โครงการ รวมกว่า 7.88 แสนตันต่อปี และการขยายกำลังการผลิตน้ำยางข้นอีก 1 โครงการ จำนวน 1.84 หมื่นตันต่อปี ส่งผลให้ ณ สิ้นปี 2566 จะมีกำลังการผลิตติดตั้งรวม 3.98 ล้านตัน เพิ่มขึ้น 25% จากสิ้นปีที่ผ่านมาอยู่ที่ 3.18 ล้านตันต่อปี
ล่าสุด บริษัทฯ ได้ขยายกำลังการผลิตยางแท่งแล้วเสร็จ 2 โครงการ ได้แก่ การขยายกำลังการผลิตที่โรงงานจังหวัดสระแก้ว มีกำลังการผลิตติดตั้งเพิ่มขึ้นกว่า 1.23 แสนตันต่อปี ปัจจุบันเริ่มการผลิตเชิงพาณิชย์แล้ว และโรงงานจังหวัดกาฬสินธุ์ มีกำลังการผลิตเพิ่มขึ้นกว่า 1.23 แสนตันต่อปี ปัจจุบันอยู่ระหว่างทดสอบการเดินเครื่องจักร โดยคาดว่าจะเริ่มการผลิตเชิงพาณิชย์ได้ภายในเดือนมีนาคม 2566 ส่วนโครงการขยายกำลังการผลิตยางแท่งและน้ำยางส่วนที่เหลือ จะทยอยแล้วเสร็จในช่วงครึ่งปีหลังของปีนี้
จากแผนงานดังกล่าว จะสอดรับกับเป้าหมายการดำเนินงานปี 2566 ที่จะเพิ่มปริมาณการขายยางธรรมชาติทุกประเภทเป็น 2 ล้านตัน หรือเพิ่มขึ้นกว่า 30% จากปริมาณการขายยางสิ้นปีที่ผ่านมา 1.5 ล้านตัน เพื่อสร้างการเติบโตอย่างต่อเนื่องและรักษาตำแหน่งผู้นำธุรกิจยางธรรมชาติครบวงจรรายใหญ่ที่สุดของโลก
“ประเมินว่าภาพรวมอุตสาหกรรมยางธรรมชาติในปีนี้ จะเห็นดีมานด์และคำสั่งซื้อที่เพิ่มขึ้นตั้งแต่ช่วงกลางปีนี้ จากกลุ่มประเทศ Non China ที่คาดว่าจะมีปริมาณยางในสต๊อกลดลงอย่างมีนัยสำคัญ และดีมานด์จากประเทศจีนที่คาดว่าภาคอุตสาหกรรมต่างๆ จะกลับมาเดินเครื่องจักรในระดับปกติ เช่น อุตสาหกรรมยางล้อ หลังจากเริ่มเปิดประเทศและผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์เมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา ขณะที่ภาพรวมดีมานด์ในช่วงกว่า 2 เดือนแรกที่ผ่านมายังทรงตัวจากช่วงปลายปี โดยบริษัทฯ วางเป้าหมายปริมาณการขายยางธรรมชาติในไตรมาส 1/2566 ที่ 4 แสนตัน เพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อนหน้าอยู่ที่ 3.8 แสนตัน” นายวีรสิทธิ์ กล่าว
#bidennews #หมาป่าแห่งวอลสตรีท