Daily NewsRecent Posts

SVT อวดปี 66 ทำรายได้ทะลุ 2,347 ลบ. ดันกำไรสุทธิแตะ 59.14 ลบ. ปี 67 รุกเจาะพื้นที่เศรษฐกิจ-โรงงาน-แหล่งท่องเที่ยว

SVT แจ้งผลประกอบการปี 66 กวาดรายได้ 2,347.36 ล้านบาท โตเฉียด 5% จากการขยายติดตั้งเครื่องจําหน่ายสินค้าอัตโนมัติครอบคลุมพื้นที่ให้บริการเพิ่มขึ้น ดันกำไรสุทธิแตะ 59.14 ล้านบาท ด้านบอร์ดเคาะปันผลอัตราหุ้นละ 0.035 บาท พร้อมวางเป้าปี 67 รายได้โต 10% รุกเจาะพื้นที่เศรษฐกิจ-โรงงาน-แหล่งท่องเที่ยว หวังสร้างโอกาสการเติบโตในอนาคต

นายพิศณุ โชควัฒนา กรรมการผู้อำนวยการ บริษัท ซันเวนดิ้ง เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) หรือ SVT ผู้ดำเนินธุรกิจค้าปลีกผ่านเครื่องจำหน่ายสินค้าอัตโนมัติ (Vending Machine) ภายใต้แบรนด์ SUN Vending เปิดเผยภาพรวมผลการดำเนินงานของบริษัทฯ ในปี 2566 ว่า มีรายได้จากการขายและบริการ 2,347.36 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4.90% เมื่อเทียบกับปีก่อน ซึ่งเป็นการเติบโตตามการขยายพื้นที่ให้บริการติดตั้งเครื่องจําหน่ายสินค้าอัตโนมัติตามสถานที่ให้บริการต่างๆ เพิ่มขึ้น และมีกำไรสุทธิ 59.14 ล้านบาท

นอกจากนี้ ประชุมคณะกรรมการบริษัท มีมติอนุมัติการจ่ายเงินปันผลประจำปี 2566 ในอัตราหุ้นละ 0.035 บาท หรือคิดเป็นจำนวนเงิน 24,500,000 บาท คิดเป็น 43.7% ของกำไรสุทธิหลังหักสำรองตามกฎหมายตามงบการเงินของบริษัท ซึ่งกำหนดรายชื่อผู้มีสิทธิเข้าร่วมประชุม (RD) และได้รับเงินปันผล ในวันที่ 12 มีนาคม พ.ศ. 2567 และกำหนดวันจ่ายเงินปันผลในวันที่  20 พฤษภาคม พ.ศ. 2567

นายพิศณุ กล่าวต่อว่า ในปี 2567 บริษัทได้มีนโยบายกระจายความเสี่ยง โดยได้ขยายพื้นที่ให้บริการในการติดตั้งเครื่องจําหน่ายสินค้าอัตโนมัติใน Segment ใหม่ๆ เพิ่มขึ้น เช่น ปั๊มน้ำมัน สถานีรถไฟฟ้า เช่น MRT BTS และแอร์พอร์ตลิงค์ คอนโดมิเนียม เป็นต้น เพื่อให้สอดรับกับ Life Style ของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป  ในยุค New Normal เช่น คนทํางานพักอาศัย ในคอนโดมีเนียมในเมือง การเดินทางโดยระบบขนส่งสาธารณะเพื่อความรวดเร็ว การขยายธุรกิจร้านค้าปลีกในปั๊มน้ำมัน เป็นต้น

“ปี 2567 บริษัทวางเป้าหมายรายได้เติบโต 10% จากปีก่อน บนการคาดการณ์ภาพรวมเศรษฐกิจประเทศขยายตัวไปในทิศทางบวก โดยยังคงเน้นฐานลูกค้าหลักโรงงานอุตสาหกรรมเป็นหลัก พร้อมขยายพื้นที่การติดตั้งเครื่องจําหน่ายสินค้าอัตโนมัติไปสู่อุตสาหกรรมอื่นๆ เพิ่มเติม อาทิ ธุรกิจท่องเที่ยวและโรงแรมต่าง ๆ รองรับภาคการท่องเที่ยวที่กลับมาคึกคักเหมือนเดิม นับเป็นโอกาสในการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน รวมถึงการมองหาการร่วมลงทุนกับพันธมิตรที่มีศักยภาพ และการแสวงหาธุรกิจใหม่ๆ ต่อยอดธุรกิจในปัจจุบัน เพื่อสร้างการเติบโตอย่างมั่นคงในอนาคต” นายพิศณุ กล่าว

 

#bidennews #หมาป่าแห่งวอลสตรีท

Related Articles

Back to top button