BEYOND ท็อปฟอร์ม! พลิกทำกำไร 158 ลบ. รายได้รวมพุ่งแตะ 3,315 ลบ. ปักหมุดปี 67 รายได้โรงแรมทะลุ 3.3 พันลบ.
BEYOND ปักหมุดรายได้กิจการโรงแรมปี 2567 เติบโตต่อเนื่องทะลุ 3,300 ล้านบาท อานิสงค์นโยบายรัฐหนุนไทยสู่ “Global Hub of Celebration” มาตรการ “ฟรีวีซ่า – ขยายเวลาพำพัก” กระตุ้นท่องเที่ยวคึกคัก โชว์ผลงานปี 2566 ท็อปฟอร์ม พลิกมีกำไรสุทธิ 158 ล้านบาท รายได้รวมพุ่งแตะ 3,315 ล้านบาท จากผลงาน 2 โรงแรมโดดเด่นทะลุเป้าแตะ 2,978 ล้านบาท รายได้เฉลี่ยต่อห้องพักทั้งหมดโต 80% ครองแชมป์สูงที่สุดในกรุงเทพฯ
นางกมลวรรณ วิปุลากร กรรมการผู้จัดการ บริษัท เบาด์ แอนด์ บียอนด์ จำกัด (มหาชน) หรือ BEYOND ผู้ประกอบธุรกิจลงทุน พัฒนา และดำเนินธุรกิจโรงแรมและบริการระดับ Ultra-Luxury แนวหน้าของเมืองไทย เปิดเผยถึงแผนการดำเนินธุรกิจปี 2567 ว่า บริษัทฯตั้งเป้ารายได้กิจการโรงแรม 2 แห่ง ประกอบด้วย โรงแรมโฟร์ซีซั่นส์ กรุงเทพฯ ริมแม่น้ำเจ้าพระยา และโรงแรมคาเพลลา กรุงเทพ เติบโตทะลุ 3,300 ล้านบาท พร้อมเดินหน้าผลักดันอัตราการทำกำไรของบริษัทให้เพิ่มสูงขึ้น และการสร้างฐานะทางการเงินให้แข็งแกร่ง ด้วยการเดินหน้ายกระดับศักยภาพอย่างเข้มข้น เพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันของโรงแรม โดยเฉพาะด้านคุณภาพการให้บริการให้ดีขึ้นต่อเนื่อง ควบคู่ไปกับการสร้างกลยุทธ์ทางการตลาด ภายใต้รูปแบบโรงแรมที่มีอัตลักษณ์ของความเป็น Urban Resort และการวาง Position ให้เป็น F&B Destination ที่รวบรวมร้านอาหารนานาชาติ บาร์ และคาเฟ่ หลากหลายสไตล์ไว้ด้วยกันที่ริมแม่น้ำเจ้าพระยาแหล่งท่องเที่ยวสำคัญของกรุงเทพมหานคร
ตอกย้ำวิสัยทัศน์ “Inspiring the new ways to experience the world” ในการเป็นผู้สร้างสรรค์สินค้าและบริการรูปแบบใหม่ที่แตกต่าง เพื่อส่งมอบประการณ์ที่น่าตื่นเต้นและประทับใจให้กับลูกค้า ซึ่งเป็นการขยายโอกาสการเติบโตรองรับภาพรวมอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว ที่มีแนวโน้มขยายตัวดีต่อเนื่อง จากอานิสงค์นโยบายรัฐบาลในการขับเคลื่อนประเทศไทยสู่การเป็น “Global Hub of Celebration” เพื่อกระตุ้นให้เกิดการท่องเที่ยวไทยตลอดทั้งปี รวมถึงมาตรการขยายระยะเวลาพำพักในไทยให้กับนักท่องเที่ยว มาตรการฟรีวีซ่าที่ได้มีการขยายขอบเขตมากขึ้น อาทิ การให้ฟรีวีซ่าถาวรสำหรับนักท่องเที่ยวจีน เป็นต้น และการฟื้นตัวของอุตสาหกรรมการบินที่กลับสู่ภาวะปกติ โดยในปีนี้รัฐบาลตั้งเป้าหมายจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติจำนวน 40 ล้านคน เท่ากับปี 2562 ซึ่งเป็นช่วงก่อนเกิดการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด19
“สถานการณ์ล่าสุดตัวเลขนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าไทยในช่วง 2 เดือนแรกทะลุ 6 ล้านคนไปแล้ว เราจึงมั่นใจว่า ภาพรวมผลงานไตรมาส 1/67 รายได้ของ 2 โรงแรม ทั้งห้องพัก รวมถึงร้านอาหารและเครื่องดื่มจะเติบโตดีต่อเนื่องจากไตรมาส 4/66 ที่เป็นช่วงไฮซีซั่น ในส่วนของสถานะทางการเงินนั้น เราได้เตรียมจ่ายชำระคืนหนี้หุ้นกู้ที่ครบกำหนดเดือนมีนาคม มูลค่า 577 ล้านบาท รวมทั้งการจ่ายคืนเงินกู้สถาบันการเงินที่ครบกำหนด ซึ่งนอกจากจะส่งผลให้สถานะทางการเงินของบริษัทแข็งแกร่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง ยังจะทำให้ต้นทุนทางการเงินของเราลดลงเช่นเดียวกัน” นางกมลวรรณ กล่าว
นางกมลวรรณ กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับภาพรวมผลการดำเนินงานปี 2566 บริษัทฯ พลิกมีกำไรสุทธิ 158 ล้านบาท เทียบจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่ขาดทุนอยู่ราว 342 ล้านบาท โดยมีกำไรจากการดำเนินงานก่อนหักดอกเบี้ย ภาษี ค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่าย (EBITDA) จำนวน 892 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 231% เทียบจากปีก่อนหน้าที่ทำได้ราว 270 ล้านบาท ขณะที่รายได้รวมเติบโตโดดเด่นราว 46% จากช่วงเดียวกันปีก่อนแตะ 3,315 ล้านบาท ตามการเติบโตอย่างมีนัยสำคัญของรายได้การประกอบกิจการโรงแรม 2 แห่งที่เพิ่มขึ้นราว 39% จากช่วงเดียวกันปีก่อน แตะ 2,978 ล้านบาท สูงกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้จำนวน 2,800 ล้านบาท ซึ่งเป็นการเติบโตทั้งรายได้ห้องพัก และรายได้อาหารและเครื่องดื่ม
โดยรายได้เฉลี่ยต่อห้องพักทั้งหมด (RevPAR) ในปี 2566 เติบโต 80% เทียบจากช่วงเดียวกันปีก่อน และครองแชมป์ RevPAR สูงที่สุดในกรุงเทพมหานคร อานิสงค์จากภาพรวมอุตสาหกรรมท่องเที่ยวที่กลับมาฟื้นตัวเต็มรูปแบบ นักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าประเทศไทยเพิ่มขึ้นต่อเนื่องรวมกว่า 28 ล้านคน สูงกว่าเป้าหมายที่การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ตั้งไว้ที่ 25 ล้านบาท ซึ่งกลุ่มลูกค้า 5 อันดับแรกของบริษัทฯ ประกอบด้วย จีน, เกาหลี, ฮ่องกง, สหรัฐอเมริกา และไทย คิดเป็นสัดส่วนราว 56% ของรายได้ห้องพัก
#bidennews #หมาป่าแห่งวอลสตรีท