POLY รุกพัฒนานวัตกรรมกลุ่มอุปกรณ์และเครื่องมือทางการแพทย์สร้าง New S-curve บุกตลาด Homecare ในสหรัฐฯ
POLY สร้างการเติบโตผ่าน New S-curve ที่โดดเด่น ในกลุ่มอุปกรณ์และเครื่องมือแพทย์ พร้อมขยายธุรกิจในกลุ่มชิ้นส่วนยานยนต์ไฟฟ้า ส่งผลให้ผลประกอบการ 9 เดือนของปี 2567 เติบโตแข็งแกร่ง สะท้อนความสำเร็จของกลยุทธ์ที่มุ่งมุ่งผลิตสินค้านวัตกรรมขั้นสูง เพื่อสร้างการเติบโตท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจที่เติบโตช้า
บริษัท โพลีเน็ต จำกัด (มหาชน) หรือ POLY ผู้นำในการผลิตชิ้นส่วนอุตสาหกรรม ที่มีประสบการณ์มากกว่า 20 ปี ได้พัฒนาธุรกิจจากจุดเริ่มต้นในการผลิตชิ้นส่วนอุตสาหกรรมยานยนต์ สู่การเป็นผู้ผลิตสินค้าอุปโภคบริโภคทั้งในและต่างประเทศ และเครื่องมือและอุปกรณ์ทางการแพทย์ โดยมีจุดเด่นในการผลิตชิ้นส่วนที่มีความซับซ้อนซึ่งต้องใช้นวัตกรรมขั้นสูง สูง และมีความสามารถในการผลิตแบบครบวงจร (One Stop Services)
ปัจจุบัน POLY มีการกระจายสัดส่วนรายได้ใน 3 กลุ่มธุรกิจหลัก ประกอบด้วย
- กลุ่มชิ้นส่วนอุตสาหกรรมชยานยนต์ 9% ซึ่งเป็นผู้ผลิตชิ้นส่วนให้กับแบรนด์รถยนต์ชั้นนำอย่างโตโยต้าและฟอร์ด
- กลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภค 6% ที่ผลิตชิ้นส่วนสำหรับเครื่องใช้ไฟฟ้าและอุปกรณ์ต่าง ๆ
- กลุ่มอุปกรณ์และเครื่องมือทางการแพทย์ 5% ที่มีการเติบโตอย่างโดดเด่นและมีอัตรากำไรขั้นต้นสูงสุด
โดยผลการดำเนินงานล่าสุดในไตรมาส 3/2567 POLY มีรายได้จากการขายและบริการรวม 253 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2.8% เพิ่มขึ้น 2.8% และมีกำไรสุทธิ 57 ล้านบาท เติบโตขึ้น 53.4% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ขณะที่ผลการดำเนินงานงวด 9 เดือนแรก (มกราคม-กันยายน) ของปี 2567 มีรายได้รวม 727 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1.1% และมีกำไรสุทธิ 150.4 ล้านบาท เติบโตสูงถึง 88% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยมีอัตรากำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้นจาก 23% เป็น 30%
ในด้านการสร้าง New S-curve POLY ได้ร่วมพัฒนานวัตกรรมใหม่ล่าสุด ได้แก่ “อุปกรณ์เก็บเลือดสำหรับผ่าตัดทรวงอก” (Chest Drains for Surgery) ที่มีจุดเด่นด้านการแสดงผลผ่านหน้าจอดิจิทัลที่แม่นยำ ช่วยให้แพทย์สามารถติดตามและวินิจฉัยอาการผู้ป่วยได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นผลิตภัณฑ์ที่ตอบรับกับเทรนด์ Homecare ในสหรัฐอเมริกาที่มีมูลค่าตลาดสูงถึง 100,950 ล้านบาท และมีอัตราการเติบโตเฉลี่ย 7.2% ต่อปี โดยบริษัทตั้งเป้าเพิ่มกำลังการผลิตจาก 1,000 เซตต่อเดือนในปี 2568 เป็น 10,000 เซตต่อเดือนในปี 2570 ซึ่งคาดว่าจะสามารถสร้างรายได้เพิ่มจาก 2 ล้านบาทต่อเดือน เป็น 20 ล้านบาทต่อเดือนภายในปี 2571
ในอนาคตผลิตภัณฑ์ดังกล่าวยังมีแผนพัฒนาต่อยอดอุปกรณ์เก็บเลือดสำหรับผ่าตัดทรวงอกให้สามารถพกพากลับบ้านได้ พร้อมพัฒนา Application สำหรับการติดตามผลในระหว่างที่คนไข้พักรักษาตัวที่บ้าน เพื่อรองรับแนวโน้มการเติบโตของตลาด Homecare ในสหรัฐอเมริกาที่มีจำนวนผู้สูงอายุเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยคาดว่าภายในปี 2577 จำนวนผู้สูงอายุในสหรัฐฯ จะมีมากกว่าวัยรุ่น และจะมีสัดส่วนเพิ่มขึ้นเป็น 20% ของประชากรทั้งหมดภายในปี 2593
นอกจากนี้ POLY ยังมุ่งขยายธุรกิจในกลุ่มอุตสาหกรรมชิ้นส่วนยานยนต์ซึ่งยังคงเป็นธุรกิจหลักของบริษัท โดยคาดว่าจะได้รับงานเพิ่มเติมในการผลิตชิ้นส่วนซิลิโคนและชิ้นส่วนพลาสติกและยางสำหรับรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ให้กับผู้ประกอบการรายใหญ่ภายในไตรมาส 1-2 ของปีนี้ พร้อมกับการขยายธุรกิจใหม่ในกลุ่มอุปกรณ์ระบบสายส่งกำลังไฟฟ้าที่ได้รับ License จากบริษัทพันธมิตรผู้เชี่ยวชาญด้านพลังงานในต่างประเทศแล้ว เพื่อเพิ่มศักยภาพด้านการผลิตชิ้นส่วนที่มีความซับซ้อนสูง
การสร้าง New S-curve ของ POLY ที่กำลังเกิดขึ้นเหล่านี้ไม่เพียงแต่เป็นการกระจายความเสี่ยงทางธุรกิจ แต่ยังเป็นการวางรากฐานการเติบโตในระยะยาวผ่านการมุ่งเน้นการผลิตสินค้าที่มีนวัตกรรมและมูลค่าเพิ่มสูง เพื่อพร้อมรับโอกาสเติบโตในอนาคตจากทั้งอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า ตลาดเครื่องมือแพทย์ รวมถึงธุรกิจใหม่ในกลุ่มอุปกรณ์ระบบไฟฟ้า
#bidennews #หมาป่าแห่งวอลสตรีท